นาย ฝ่ามมิงชิ้ง นายกรัฐมนตรี

การประชุมสุดยอดอาเซียน - GCC มีขึ้นในสภาวการณ์ที่สถานการณ์ทั้งในระดับภูมิภาคและโลกยังคงมีความผันผวนซับซ้อน ทำให้การเจรจาและความร่วมมือกลายเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างเร่งด่วนต่อประเทศต่างๆ โดยเฉพาะประเทศขนาดเล็กและขนาดกลาง อาเซียนสนับสนุนความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับประเทศสำคัญ ๆ และการขยายความสัมพันธ์กับประเทศและองค์กรในภูมิภาคต่างๆทั่วโลกเพื่อใช้ประโยชน์จากแหล่งพลังต่างๆเพื่อสร้างสรรค์ประชาคม ส่งเสริมการฟื้นฟูและการพัฒนาที่ยั่งยืน และสร้างสรรค์บรรยากาศที่เอื้อให้แก่การเจรจาและความร่วมมือ

ในสภาวการณ์ดังกล่าว การปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง มีความหมายสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยร่วมกับประเทศสมาชิกอาเซียนในการแสดงให้เห็นถึงความคิดใหม่ ความเป็นอิสระ ความสามัคคีและการพัฒนา อีกทั้ง มีส่วนร่วมในการเสริมสร้างความไว้วางใจทางการเมือง การยกระดับประสิทธิภาพของความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับประเทศในอ่าวเปอร์เซีย

บทบาทของเวียดนามในการส่งเสริมความร่วมมืออาเซียน-GCC

ด้วยจำนวนประชากรเกือบ 700 ล้านคนในประเทศอาเซียนและ 60 ล้านคนในอ่าวเปอร์เซียซึ่งมีเศรษฐกิจเกิดใหม่หลายเศรษฐกิจ อาเซียนและ GCC จึงเป็นองค์กรระดับภูมิภาคที่พัฒนาอย่างคล่องตัวและเต็มไปด้วยศักยภาพ อีกทั้งเป็นศูนย์กลางการเติบโตของโลก

เช่นเดียวกับอาเซียน คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับหรือ GCC เป็นองค์กรระดับภูมิภาคชั้นนำในตะวันออกกลางที่ประกอบด้วย 6 ประเทศสมาชิก ได้แก่ ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ UAE กาตาร์ บาห์เรน คูเวตและโอมาน GCC ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 1981 โดยมีสำนักงานใหญ่ในกรุงริยาด ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยประเทศ GCC ปฏิบัตินโยบายต่างประเทศที่เป็นมิตร ส่งเสริมนโยบายมุ่งสู่ตะวันออกและให้ความสนใจถึงความร่วมมือกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

การติดต่ออย่างเป็นทางการครั้งแรกระหว่าง GCC กับอาเซียนมีขึ้นเมื่อปี 1990 เมื่อโอมานซึ่งในช่วงนั้นเป็นประธานของ GCC ได้แสดงความปรารถนาที่จะสถาปนาความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการกับอาเซียน การประชุมรัฐมนตรีอาเซียน-GCC ครั้งแรกมีขึ้นเมื่อปี 2009 ณ ประเทศบาห์เรน นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา รัฐมนตรีต่างประเทศของทั้งสองฝ่ายได้พบปะกันเป็นประจำทุกปีนอกรอบการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ และการประชุมครั้งนี้ถือเป็นการประชุมสุดยอดครั้งแรกระหว่างอาเซียนกับ GCC ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งและตอบสนองความต้องการของทั้งสองฝ่ายเนื่องจากมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างทั้งสองกลุ่ม โดยเฉพาะความร่วมมือด้านพลังงาน การแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำ ความร่วมมือทางการเงินและธนาคาร

ในฐานะประเทศสมาชิกที่สำคัญของอาเซียน เวียดนามส่งเสริมจิตใจแห่งการเป็นฝ่ายรุก ความกระตือรือร้นและความรับผิดชอบอยู่เสมอ ซึ่งมีส่วนร่วมต่อการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับ GCC อย่างมีประสิทธิภาพ ความสัมพันธ์เวียดนาม-GCC และความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างเวียดนามกับแต่ละประเทศสมาชิก GCC เมื่อปี 2018 เวียดนามได้รับตำแหน่งผู้ประสานงานความสัมพันธ์อาเซียน-GCC ส่งเสริมองค์กรและร่วมมือกับคูเวตซึ่งเป็นประธาน GCC ประจำปี 2018 ประสบความสำเร็จในการเป็นประธานร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน-GCC ณ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐเมื่อเดือนกันยายนปี 2018 นอกรอบการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติครั้งที่ 73

นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงห์จิญ ให้การต้อนรับรัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดิอาระเบีย ไฟซาล บิน ฟาร์ฮาน อัล ซาอุด (VNA)

ยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับ GCC

สำหรับเวียดนาม ประเทศสมาชิก GCC ทั้งหมด 6 ประเทศต่างเป็นหุ้นส่วนที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆเพื่อส่งเสริมความร่วมมือ และความสัมพันธ์ในหลายด้าน รวมถึง การเมือง การทูต การค้า การลงทุนและแรงงาน เวียดนามและ 4 ประเทศ GCC ได้แก่ ซาอุดิอาระเบีย คูเวต กาตาร์และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้เปิดสถานทูตระหว่างกัน มูลค่าการค้าระหว่างเวียดนามกับประเทศในภูมิภาคบรรลุ 1 หมื่น 2 พัน 5 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ ปัจจุบัน ยอดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือ FDI ของกลุ่มประเทศ GCC ในเวียดนามบรรลุประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะนี้ แรงงานเวียดนามประมาณ 11,000 คนกำลังทำงานในกลุ่มประเทศ GCC เวียดนามกำลังเจรจาข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุมหรือ CEPA กับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

โดยเฉพาะ สำหรับซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นประเทศเขตอ่าวเปอร์เซียที่นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้งไปเยือนในครั้งนี้ ความสัมพันธ์ทวิภาคีกำลังพัฒนาอย่างดีงาม โดยทั้งสองฝ่ายแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนและสนับสนุนกันในฟอรั่มระหว่างประเทศ มูลค่าการค้าต่างตอบแทนระหว่างสองประเทศเมื่อปีที่แล้วบรรลุกว่า 2.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 32 เมื่อเทียบกับปี 2021 สำหรับความร่วมมือด้านการลงทุนและการสนับสนุนการพัฒนา กลุ่มบริษัทและบริษัทใหญ่ๆหลายแห่งของซาอุดิอาระเบียกำลังปฏิบัติโครงการลงทุนในเวียดนาม เช่น กลุ่มบริษัท Zamil Steel และกลุ่มบริษัท Sabic ได้ก่อตั้งบริษัทหุ้นส่วน Sabic Vietnam นอกจากนี้ กองทุนเพื่อการพัฒนาซาอุดิอาระเบียยังได้จัดสรรสินเชื่อพิเศษให้แก่โครงการ 13 โครงการ รวมยอดเงินลงทุนกว่า 181 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปัจจุบัน มีแรงงานเวียดนามประมาณ 4,000 - 5,000 คนทำงานในซาอุดิอาระเบีย

การที่นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-GCC และเยือนซาอุดิอาระเบียถือเป็นกิจกรรมการต่างประเทศที่โดดเด่นของเวียดนามในปีนี้ การปฏิบัติภารกิจมีวัตถุประสงค์เพื่อเดินหน้าปฏิบัตินโยบายต่างประเทศของเวียดนามเกี่ยวกับการส่งเสริมและยกระดับการทูตพหุภาคีจนถึงปี 2030 คือ อิสระ พึ่งตนเอง สันติภาพ ร่วมมือและพัฒนา มีความสัมพันธ์หลายรูปแบบหลายฝ่าย ส่งข้อความแห่งความมุ่งมั่นอันแรงกล้าและการมีส่วนร่วมอย่างมีความรับผิดชอบของเวียดนามที่เป็นมิตร จริงใจ มีความไว้วางใจ พร้อมกระชับสัมพันธไมตรี การสนทนาและความร่วมมือเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน สร้างสรรค์บรรยากาศในภูมิภาคและโลกที่สันติภาพและเสถียรภาพกับประเทศอื่น ๆ อีกทั้งสร้างแรงผลักดันใหม่เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับซาอุดิอาระเบีย และเปิดโอกาสความร่วมมือใหม่ๆ ในเวลาที่จะถึง.