เวียดนามใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อเป้าหมายสันติภาพ

(VOVworld) - การเข้าร่วมการประชุมสุดยอดความมั่นคงด้านนิวเคลียร์ครั้งที่ 2 ณ ประเทศสาธารณรัฐเกาหลีของท่าน Nguyen Tan Dung นายกรัฐมนตรีเวียดนามในวันที่ 25 เดือนนี้ถือเป็นกิจกรรมที่สำคัญในด้านการทูตเวียดนามปี 2012 เนื่องจากเป็นโอกาสเพื่อยืนยันนโยบายการใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติภาพ
(VOVworld) - การเข้าร่วมการประชุมสุดยอดความมั่นคงด้านนิวเคลียร์ครั้งที่ 2 ณ ประเทศสาธารณรัฐเกาหลีของท่าน Nguyen Tan Dung นายกรัฐมนตรีเวียดนามในวันที่ 25 เดือนนี้ถือเป็นกิจกรรมที่สำคัญในด้านการทูตเวียดนามปี 2012 เนื่องจากเป็นโอกาสเพื่อยืนยันนโยบายการใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติภาพ
เวียดนามใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อเป้าหมายสันติภาพ - ảnh 1
ท่าน Nguyen Tan Dung  กับ ท่านลีเมียงบั๊ก
(Photo Internet)

          นับตั้งแต่การประชุมสุดยอดความมั่นคงนิวเคลียร์ครั้งแรก ณ ประเทศสหรัฐเมื่อปี 2010  ปัญหาความมั่นคงและความปลอดภัยด้านนิวเคลียร์ได้กลายเป็นปัญหาที่ได้รับความสนใจจากประชาคมระหว่างประเทศ ซึ่งรวมไปถึงประเทศที่ยังไม่มีนิวเคลียร์ ดังนั้นในการประชุมครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลจาก 50 ประเทศจะหารือเกี่ยวกับความก้าวหน้าในการปฏิบัติคำมั่นที่ให้ไว้ในการประชุมสุดยอดครั้งแรกและวางแนวทางปฏิบัติระเบียบการของการประชุมสุดยอดความมั่นคงนิวเคลียร์ ในการประชุมครั้งแรก เวียดนามได้พยายามปฏิบัติคำมั่นดังกล่าวผ่านการวิจัยและเข้าร่วมสนธิสัญญาระหว่างประเทศเกี่ยวกับความมั่นคงและความปลอดภัยด้านนิวเคลียร์พร้อมทั้งมีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศหรือ IAEA และประเทศอื่นๆในการปฏิบัติโครงการใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อเป้าหมายสันติภาพ  ซึ่งเวียดนามได้ลงนามในข้อตกลงร่วมมือทวิภาคีด้านนิวเคลียร์กับหลายประเทศทั่วโลกแล้ว  ดร. Le Van Hong รองหัวหน้าสถบันพลังงานนิวเคลียร์เวียดนามเผยว่า      “เพื่อให้การประเมินมีความถูกต้อง จำเป็นต้องทำการวิจัยอย่างลึกซึ้งและระมัดระวังเพื่อเป็นพื้นฐานให้แก่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเวียดนามต่อยอดโครงการวิจัยและพิจารณาการดำเนินโครงการพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์

            การที่ท่าน Nguyen Tan Dung นายกรัฐมนตรีนำคณะผู้แทนเวียดนามเข้าร่วมการประชุมความมั่นคงนิวเคลียร์ครั้งที่ 2 นี้ถือเป็นการยืนยันของเวียดนามเกี่ยวกับการใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อเป้าหมายสันติภาพ นาย Luong Thanh Nghi โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้เผยว่า    “เวียดนามให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการรักษาความมั่นคงและความปลอดภัยด้านนิวเคลียร์ในกระบวนการพัฒนาประเทศและประยุกต์ใช้พลังงานนิวเคลียร์ พร้อมทั้งสนับสนุนสิทธิของทุกประเทศในการใช้พลังงานเพื่อสันติภาพรวมทั้งความพยายามปลดและไม่เผยแพร่อาวุธนิวเคลียร์

            หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมความมั่นคงนิวเคลียร์ครั้งที่ 2  ท่าน Nguyen Tan Dung ก็จะอยู่เยือนประเทศสาธารณรัฐเกาหลีอย่างเป็นทางการตามคำเชิญของท่านลีเมียงบั๊ก ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งนับเป็นการเยือนประเทศนี้ครั้งที่ 3 ของท่าน Nguyen Tan Dung อีกทั้งเป็นกิจกรรมแรกในปีมิตรภาพเวียดนาม – สาธารณรัฐเกาหลี 2012 และรำลึกครบรอบ 20 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ ซึ่งเป็นการพัฒนาความสัมพันธ์ทางการเมืองเพื่อผลักดันความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจสองประเทศ โดยในหลายปีที่ผ่านมา สาธารณรัฐเกาหลีเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจชั้นนำของเวียดนามและมีเงินทุนจดทะเบียนมากเป็นอันดับ 1 ในจำนวนประเทศและดินแดนที่ลงทุนในเวียดนามรวมเงินทุนจดทะเบียน 2 หมื่น 3 พันล้านเหรียญสหรัฐและเป็นหุ้นส่วนการค้าอันดับที่ 4 ของเวียดนาม อีกทั้งยังคงสงวนเงินโอดีเอให้แก่เวียดนามในขณะที่หลายประเทศได้ลดจำนวนเงินช่วยเหลือดังกล่าวเนื่องจากได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกและการที่เวียดนามกลายเป็นประเทศที่มีรายได้ระดับปานกลาง โดยจำนวนเงินยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและเน้นลงทุนในด้านการพัฒนาระบบสาธารณูปโภค  นาย ฮาจานโฮ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำเวียดนามได้เผยว่า  “ จากการที่เมื่อสาธารณรัฐเกาหลีมีแผนการเพิ่มเงินโอดีเอให้แก่เวียดนาม เราไม่เพียงแต่มองเห็นรายได้เฉลี่ยต่อหัวประชากรที่จะเพิ่มขึ้นเท่านั้น หากยังต้องพิจารณาประสิทธิภาพในการใช้เงินโอดีเออีกด้วย ดังนั้นเราคิดว่า ต้องเพิ่มเงินโอดีเอให้แก่เวียดนามมากขึ้น

            การก่อสร้างโครงการต่างๆ เช่น สะพาน Vam Cong ถ.ไฮเวย์ฮานอย – ไฮฟองและโรงพยาบาล Quang Nam  ต่างเป็นสัญลักษณ์แห่งความร่วมมือที่มีประสิทธิภาพระหว่างเวียดนามกับสาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้พยายามเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนให้สูงถึง 2หมื่นล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2015 ดังนั้น การเยือนสาธารณรัฐเกาหลีครั้งนี้ของท่าน Nguyen Tan Dung ถือเป็นการยืนยันอีกครั้งเกี่ยวกับนโยบายที่เสมอต้นเสมอปลายของเวียดนามที่จะให้ความสำคัญต่อการพัฒนาความสัมพันธ์และความร่วมมือกับสาธารณรัฐเกาหลี พร้อมทั้งเป็นการย้ำถึงความร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพในตลอด 20 ปีที่ผ่านมาของสองประเทศหุ่นส่วนยุทธศาสตร์ ตลอดจนเป็นโอกาสหารือถึงมาตรการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้ขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่และสร้างความเชื่อถืออย่างยั่งยืนต่อกัน./.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด