เสรีภาพทางอินเตอร์เน็ตในเวียดนามคือสิ่งที่ไม่สามารถปฏิเสธได้
Thu Hoa -  
(VOVWORLD) - เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน องค์การฟรีดอมเฮ้าส์ได้ประกาศรายงานที่ระบุเวียดนามในรายชื่อกลุ่มประเทศที่ไม่มีเสรีภาพในการใช้อินเตอร์เน็ตในปี 2019 ซึ่งเป็นวิธีการใส่ร้ายป้ายสีและการบิดเบือนความจริงแบบเดิมๆของฝ่ายที่เป็นอริเกี่ยวกับเสรีภาพด้านการสื่อสารและการใช้อินเตอร์เน็ตในเวียดนามและถึงแม้คารมนี้จะถูกใช้ซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่ความจริงของการใช้อินเตอร์เน็ตอย่างอิสระเสรีในเวียดนามคือสิ่งที่ไม่สามารถปฏิเสธได้
เสรีภาพอินเตอร์เน็ตในเวียดนามคือสิ่งที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ (hanoimoi.com.vn) |
ในการบริหารประเทศ พรรคและรัฐเวียดนามมีแนวทางและนโยบายที่เสมอต้นเสมอปลายในการให้ความเคารพและปกป้องสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของมนุษย์ รวมถึงสิทธิเสรีภาพด้านการสื่อสารและอินเตอร์เน็ต โดยพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามยืนยันว่า การให้ความเคารพและค้ำประกันสิทธิมนุษยชนคือเป้าหมายและพลังขับเคลื่อนให้แก่ภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศ พลเมืองเวียดนามทุกคนได้ปฏิบัติสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล รวมถึงเสรีภาพในการใช้อินเตอร์เน็ตในกรอบของกฎหมาย
เวียดนามมีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตมากเป็นอันดับที่ 12 ของโลก
เมื่อเกือบ 22 ปีก่อน เวียดนามเริ่มเปิดใช้อินเตอร์เน็ตที่เชื่อมต่อทั่วโลก คือในวันที่ 19 พฤศจิกายน ปี 1997 ซึ่งเป็นนิมิตหมายที่สำคัญในประวัติศาสตร์ของหน่วยงานการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ของเวียดนาม ในหลายปีที่ผ่านมา เวียดนามได้ใช้ประโยชน์จากอินเตอร์เน็ตอย่างเต็มที่เพื่อสร้างสรรค์ พัฒนาประเทศและสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างกว้างลึกในทุกด้าน จำนวนผู้ใช้อินเตอร์เน็ตในเวียดนามได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากกว่า 2 แสนคนในช่วงแรกๆขึ้นเป็น 64 ล้านคนในปี 2019 หรือคิดเป็นกว่าร้อยละ 65 ของประชากรทั่วประเทศ ปัจจุบัน มีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตทุกวันร้อยละ 94 และร้อยละ 6 ใช้อินเตอร์เน็ตอย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งครั้งและเวียดนามติดหนึ่งในประเทศที่มีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตมากที่สุดในเอเชีย อยู่อันดับที่ 12 ของโลก ในด้านโครงสร้างพื้นฐาน ความเร็วในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตในเวียดนามได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยอินเตอร์เน็ตและเครือข่ายสังคมออนไลน์ได้กลายเป็นเครื่องมือที่สำคัญและขาดไม่ได้ของประชาชนภาคส่วนในสังคม โดยประชาชนสามารถแลกเปลี่ยน แสดงความคิดเห็นและทัศนะต่างๆผ่านทางอินเตอร์เน็ต โดยเฉพาะเว็บไซต์และเครือข่ายสังคมออนไลน์ได้อย่างเสรี หน่วยงานและองค์การต่างๆในหน่วยงานปกครองทุกระดับตั้งแต่ส่วนกลางถึงส่วนท้องถิ่นใช้อินเตอร์เน็ตและเครือข่ายสังคมออนไลน์เพื่อปฏิบัติงานราชการ แก้ไขปัญหาต่างๆในการทำระเบียบราชการและการสื่อสารกับประชาชน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้แสดงให้เห็นถึงทัศนะที่เสมอต้นเสมอปลายของพรรคและรัฐเวียดนามในการค้ำประกันเสรีภาพทางอินเตอร์เน็ตในทุกด้านของสังคม
ค้ำประกันความมั่นคงทางอินเตอร์เน็ตเพื่อปฏิบัติสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชน
เวียดนามเป็นประเทศที่มีการพัฒนาอินเตอร์เน็ตอย่างรวดเร็ว แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องรับมือความเสี่ยงสูงจากปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์ โดยคนร้ายมักจะใช้อินเตอร์เน็ตและเครือข่ายสังคมออนไลน์เพื่อทำผิดกฎหมาย ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ ขัดขวางกิจกรรมของหน่วยงานภาครัฐและเครือบริษัทใหญ่ๆของเวียดนาม ดังนั้นเพื่อค้ำประกันความมั่นคงทางอินเตอร์เน็ต ป้องกันและต่อต้านการใช้อินเตอร์เน็ตและเครือข่ายสังคมออนไลน์เพื่อทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย รัฐเวียดนามได้ปฏิบัติมาตรการต่างๆอย่างพร้อมเพรียง โดยนอกจากประกาศใช้เอกสารกฎหมายต่างๆ กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ขยายความร่วมมือกับประเทศและองค์กรระหว่างประเทศที่มีการพัฒนาอินเตอร์เน็ตเพื่อเรียนรู้เทคโนโลยี การฝึกอบรมแหล่งบุคลากร การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรียกร้องให้บริษัทต่างๆ เช่น Google, Facebook ลบข้อมูลที่และบัญชีผู้ใช้ที่มีการลงเนื้อหาขัดกับขนบธรรมเนียมประเพณีของประชาชาติและส่งผลกระทบในทางลบต่อความมั่นคงของเวียดนามและให้คำมั่นปฏิบัติตามกฎหมายในเวียดนาม ซึ่งสิ่งนี้ไม่เพียงแต่สอดคล้องกับกฎหมายสากลและกฎหมายของประเทศต่างๆเท่านั้น หากยังมีส่วนร่วมผลักดันการพัฒนาอินเตอร์เน็ตและเศรษฐกิจดิจิทัลในเวียดนาม ปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของรัฐและพลเมืองเวียดนามอีกด้วย
สถานการณ์ในประเทศต่างๆแสดงให้เห็นว่า การปฏิบัติสิทธิเสรีภาพทางอินเตอร์เน็ตต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย เช่น คณะกรรมการยุโรปได้ประกาศใช้กฎหมายเกี่ยวกับการปกป้องความเป็นส่วนตัวระดับโลกเพื่อจำกัดการใช้อินเตอร์เน็ตและเครือข่ายสังคมออนไลน์เพื่อละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของพลเมืองประเทศสมาชิก คณะกรรมการยุโรป หรือ อีซีได้เรียกร้องให้บริษัท Facebook, Google และ Twitter ปรับปรุงข้อกำหนดต่างๆและลบข้อมูลที่บิดเบือนความจริง มิฉะนั้นจะถูกลงโทษปรับอย่างหนัก ส่วนประเทศต่างๆในทวีปแอฟริกาและจีนได้บล๊อคfacebook โดยเฉพาะรัฐบาลจีนยังได้บล๊อคทั้งระบบ Google เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตเข้าถึงเว็บไซต์ต่างๆที่มีจุดมุ่งหมายทางการเมืองและเว็บไซต์ที่ขัดกับศีลธรรมอันดี ส่วนรัฐบาลสาธารณรัฐเกาหลีและไทยได้เรียกร้องให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตต้องทำการเซ็นเซอร์และป้องกันไม่ให้มีการโพสต์ข้อมูลที่ไม่เหมาะสมบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ แม้แต่ที่ประเทศสหรัฐ ที่มักจะถือตัวเองว่า เป็นประเทศแห่งเสรีภาพนั้น รัฐสภาสหรัฐก็ได้ประกาศใช้เอกสารกฎหมายหลายฉบับเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการใช้อินเตอร์เน็ตและเครือข่ายสังคมออนไลน์เพื่อก่อการร้าย ยุยงส่งเสริมให้ใช้ความรุนแรงหรือละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญา
ก็เหมือนกับสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานในด้านต่างๆ สิทธิเสรีภาพด้านการสื่อสารและอินเตอร์เน็ตต้องได้รับการปฏิบัติตามกฎหมาย ให้ความเคารพและปกป้องสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของผู้อื่นและของสังคม การฉกฉวยอินเตอร์เน็ตและเครือข่ายสังคมออนไลน์เพื่อมีปฏิบัติการที่ละเมิดกฎหมาย ส่งผลกระทบในทางลบต่อสิทธิและผลประโยชน์ของประชาชนและสังคมคือการกระทำที่ผิดกฎหมาย ซึ่งทัศนะที่เสมอต้นเสมอปลายของเวียดนามคือไม่ห้ามการพัฒนาระบบอินเตอร์เน็ต มีแต่การห้ามใช้อินเตอร์เน็ตที่ขัดกับเอกลักษณ์วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีของประชาชาติ ขัดขวางการพัฒนาสังคม ส่งผลกระทบในทางลบต่อการเมือง ความมั่นคง ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของประเทศ ซึ่งองค์การพลเรือนต่างๆในโลก รวมทั้งองค์การฟรีดอมเฮ้าส์ต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวให้ดี.
Thu Hoa