การประชุมสรุป 5 ปีการปฏิบัติมติที่ 05 ของกรมการเมืองพรรคสมัยที่ 12 เกี่ยวกับการผลักดันการศึกษาและปฏิบัติตามแนวคิด คุณธรรมและบุคลิกของประธานโฮจิมินห์ (quochoi.vn)

ประธานโฮจิมินห์คือสัญลักษณ์อันสูงส่งของลัทธิรักชาติและลัทธิวีรภาพแห่งการปฏิวัติเวียดนาม ท่านได้ทุ่มเทและอุทิศตลอดชีวิตให้แก่ภารกิจการปลดปล่อยประชาชาติ ปลดปล่อยชนชั้นกรรมกร ปลดปล่อยสังคมและปลดปล่อยมนุษย์ ชีวิตและการเคลื่อนไหวปฏิวัติของท่านได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งการปฏิวัติ ปลูกเร้าจิตใจแห่งความคาดหวังและความเชื่อมั่นของประชาชนเวียดนามและประชาชนหัวก้าวหน้าในโลกต่อภารกิจการต่อสู้เพื่อเอกราช เสรีภาพ สันติภาพ ประชาธิปไตยและความก้าวหน้าทางสังคม

แนวคิดโฮจิมินห์คือการรวมทัศนะ ความคิด ความเข้าใจและแนวทางการชี้นำของประธานโฮจิมินห์เกี่ยวกับการปฏิวัติและแนวทางการพัฒนาของการปฏิวัติเวียดนามในปัจจุบัน ซึ่งเป็นผลจากการประยุกต์ใช้และพัฒนาลัทธิมากซ์-เลนินให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของเวียดนามอย่างสร้างสรรค์ สานต่อและพัฒนาเกียรติประวัติอันดีงามของประชาชาติและเปิดรับความดีเลิศทางด้านวัฒนธรรมของมนุษย์ ในช่วงที่ยังมีชีวิตอยู่ ท่านได้ยืนยันหลายครั้งว่า “แม้สายน้ำจะแห้งเหือด ภูเขาถูกกัดกร่อน แต่ความจริงที่ว่า ประเทศเวียดนามเป็นหนึ่งเดียว ประชาชาติเวียดนามเป็นหนึ่งเดียวจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง”   “พร้อมสละทุกอย่างแต่ไม่ยอมเสียประเทศ ไม่ยอมเป็นทาส” “ไม่มีอะไรที่มีค่ากว่าเอกราชและเสรีภาพ” “ แม้จะต้องเผาทั้งเทือกเขาเจื่องเซินก็ต้องช่วงชิงเอกราชและเสรีภาพให้ได้” “ข้าพเจ้ามีความปรารถนาสูงสุดอยู่ประการหนึ่ง นั่นคือทำอย่างไรให้ประเทศของเรามีเอกราช ประชาชนมีเสรีภาพอย่างแท้จริง ประชาชนทุกคนมีข้าวกินมีเสื้อผ้าใส่ และมีโอกาสได้ศึกษาเล่าเรียน ประเทศเวียดนามมีสถานะที่ได้รับการยอมรับบนเวทีโลก” “การที่ประเทศมีเอกราช แต่ประชาชนไม่มีความสุขและเสรีภาพ เอกราชนั้นก็ถือเป็นโมฆะ” ซึ่งทั้งนี้หมายความว่า การมีเอกราชต้องผูกพันกับสังคมนิยม การปลดปล่อยประชาชาติต้องผูกพันกับการปลดปล่อยชนชั้น ปลดปล่อยสังคมและปลดปล่อยมนุษย์ ซึ่งก็คือ ต้องทำการปฏิวัติเพื่อก้าวไปสู่สังคมนิยม สิ่งที่นำไปสู่อนาคตที่สดใสของประเทศและการพัฒนาให้ทัดเทียมกับประเทศมหาอำนาจในโลกต้องขึ้นอยู่กับการส่งเสริมพลังที่เข้มแข็งจากกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติและการระดมพลังทุกแหล่งจากประชาชนทุกภาคส่วน ทุกชนเผ่าและทุกศาสนา ประธานโฮจิมินห์ได้กล่าวว่า เพื่อปฏิบัติภารกิจการต่อสู้เพื่อกู้ชาติและปลดปล่อยประชาชาติ มีทางเลือกเดียวคือทำการปฏิวัติ “ตอนนี้ มีแนวคิดและทฤษฎีมากมาย แต่ลัทธิมากซ์-เลนินคือแนวคิดชี้นำการปฏิวัติที่ถูกต้องที่สุด”และยืนยันว่า การปฏิวัติคือภารกิจของประชาชน โดยประชาชนและเพื่อประชาชนภายใต้การนำของพรรคการเมืองปฏิวัติที่ชอบธรรม พรรคที่เข้มแข็งก็สามารถจะชี้นำประชาชาติให้สร้างพลังที่เข้มแข็งเพราะพรรคคือผู้นำของชนชั้นกรรมกร แรงงานและประชาชนทุกคน

เลขาธิการใหญ่พรรค เหงวียนฟู้จ่องกล่าวปราศรัยในการประชุม (quochoi.vn)

คุณธรรมโฮจิมินห์คือคุณธรรมการปฏิวัติและเป็นคุณสมบัติของนักเคลื่อนไหวปฏิวัติ นั่นคือ ประหยัดมัธยัสถ์ ซื่อสัตย์สุจริต ทุ่มเทแรงกายแรงใจให้แก่การรับใช้ประเทศและประชาชน ถือผลประโยชน์ของรัฐเหนือกว่าสิ่งอื่นใด ประธานโฮจิมินห์ได้ยืนหยัดต่อต้านลัทธิบุคคลนิยม ให้ความสนใจเป็นพิเศษต่อการให้การศึกษาและฝึกฝนหล่อหลอมตนเอง ท่านมักจะกล่าวเสมอว่า “นักเคลื่อนไหวปฏิวัติต้องมีคุณธรรมการปฏิวัติ ถ้าไม่ฝึกฝนคุณธรรม แม้จะมีความสามารถเพียงใดก็ไม่สามารถชี้นำประชาชนได้”

บุคลิกโฮจิมินห์คือการใช้ชีวิตอย่างประหยัดมัธยัสถ์ เรียบง่าย ถ่วมตน ใฝ่ศึกษาหาความรู้ พร้อมรับฟังความคิดเห็นและมีความผูกพันอย่างใกล้ชิดกับประชาชน ทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน เป็นผู้รับใช้ประชาชน มิใช่ถือตัวเองเป็นเจ้านายของประชาชน ประธานโฮจิมินห์ได้เผยว่า “เจ้าหน้าที่สมาชิกพรรคทุกคนต้องพยายามฝึกฝนหล่อหลอมตนเองเพื่อยกระดับจิตสำนึก ทักษะความสามารถเพื่อกลายเป็นเจ้าหน้าที่ที่ดี จงรักภักดีต่อพรรค ซื่อสัตย์ต่อประชาชน ปฏิบัติทุกหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างลุล่วงไปด้วยดี พยายามฟันฝ่าทุกอุปสรรคและรบชนะทุกศัตรู”

แนวคิด คุณธรรมและบุคลิกของประธานโฮจิมินห์คือสมบัติอันล้ำค่าของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม เป็นประทีปส่องทางและนำไปสู่ความสำเร็จของการปฏิวัติเวียดนาม ในทุกสภาวการณ์ พรรคและประชาชนเวียดนามยืนหยัดแนวคิด เป้าหมายและเส้นทางการปฏิวัติที่ได้เลือกเฟ้นคือ “เอกราชประชาชาติผนึกแน่นกับสังคมนิยม” ถือลัทธิมากซ์-เลนินและแนวคิดโฮจิมินห์คือพื้นฐานและเข็มทิศนำทางให้แก่ทุกกิจกรรม ในสภาวการณ์ปัจจุบัน ทั้งพรรค กองทัพและประชาชนทุกคนยิ่งมุ่งมั่นตั้งใจทำการศึกษาและปฏิบัติตามแนวคิด คุณธรรมและบุคลิกโฮจิมินห์อย่างเข้มแข็งเพื่อบรรลุเป้าหมาย “ประชาชนมั่งคั่ง ประเทศเข้มแข็ง มีประชาธิปไตย ยุติธรรมและอารยธรรม”ตามความปรารถาของประธานโฮจิมินห์.