ประธานาธิบดีสหรัฐและนายกรัฐมนตรีเวียดนาม (Photo  Nhật Bắc)

ช่วงเวลา25ปีแม้จะยังไม่ยาวนานนักแต่ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนาม-สหรัฐก็ได้บรรลุผลงานที่น่าประทับใจต่างๆ จากความสัมพันธ์ที่เคยเป็นศัตรูกันได้เปลี่ยนมาเป็นหุ้นส่วนในทุกด้านและพัฒนาอย่างเข้มแข็งทั้งในกรอบการทูต การเมือง เศรษฐกิจ การค้า การลงทุนและวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี

ผลงานที่น่าประทับใจ

ใน25ปีที่ผ่านมาด้วยวิสัยทัศน์และความตั้งใจทางการเมืองของผู้นำสมัยต่างๆ ทั้งสองประเทศได้ฝ่าฟันอุปสรรคในหลายด้าน ปิดฉากอดีตเพื่อมุ่งก้าวไปข้างหน้า สร้างสรรค์ความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทุกด้านบนพื้นฐานการให้ความเคารพเอกราช อธิปไตย ระบอบการเมืองและบูรณภาพแห่งดินแดนของกัน โดยหลักการณ์แห่งความสัมพันธ์นี้ได้รับการปฏิบัติและธำรงอย่างต่อเนื่องตามกรอบความร่วมมือในด้านต่างๆระหว่างสองประเทศ ตามการประเมินของเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำเวียดนาม Daniel J.Kritenbrink นับจากจุดเริ่มต้นใหม่เมื่อ25ปีก่อนไม่มีใครสามารถคาดคิดได้ว่าความร่วมมือเวียดนาม-สหรัฐได้พัฒนาไปอย่างข้ามขั้นดังทุกวันนี้ โดยความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการค้าและการลงทุนได้เป็นประเด็นหลักและเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญในการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคี มูลค่าการค้าทวิภาคีเพิ่มขึ้นกว่า170เท่าคือจาก450ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี1995ขึ้นเป็น77.6พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี2019 “ผมคิดว่าสิ่งที่มีความหมายที่สุดคือเราสามารถก้าวข้ามความเป็นอริในอดีตเพื่อสร้างสรรค์มิตรภาพและความร่วมมือในทุกด้าน เวียดนามและสหรัฐต่างเป็นหุ้นส่วนที่น่าไว้วางใจของกันเพื่อร่วมสนับสนุนกันให้พัฒนาอย่างรุ่งเรือง ผมภูมิใจกับผลงานที่เราได้ทำและเห็นว่าความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทุกด้านเวียดนาม-สหรัฐกำลังพัฒนาเข้มแข็งอย่างไม่เคยมีมาก่อน”

ความสัมพันธ์เวียดนาม-สหรัฐไม่เพียงแต่มีความหมายต่อทั้งสองประเทศเท่านั้นหากยังมีส่วนร่วมที่เข้มแข็งต่อการธำรงบรรยากาศแห่งสันติภาพ เสถียรภาพ ร่วมมือและให้ความเคารพกฎหมายในภูมิภาคมหาสมุทรอินเดีย เอเชียแปซิฟิกและทั่วโลก โดยทั้งสองประเทศกำลังร่วมประสานงานกันเพื่อร่วมแก้ไขปัญหาระหว่างประเทศและภูมิภาคเช่น ปัญหาทะเลตะวันออก คาบสมุทรเกาหลี ฟอรั่มความร่วมมือของเอเปก อาเซียนและสหประชาชาติเป็นต้น

เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำเวียดนาม Daniel J.Kritenbrink ในการประชุมแถลงข่าว วันที่2กรกฎาคม (Photo cand.com.vn)

สร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาความสัมพันธ์ใน25ปีข้างหน้า

ปัจจุบันถึงแม้ทั่วโลกได้รับผลกระทบจากปัญหาโควิด-19แต่เวียดนามและสหรัฐยังคงธำรงความร่วมมือที่มีอยู่และขยายขอบเขตไปยังด้านใหม่เช่น การป้องกันโรคระบาด การสนับสนุนอุปกรณ์การเเพทย์ การสร้างห่วงโซ่อุปทานที่มั่นคง เป็นต้น โดยเฉพาะในฐานะประธานอาเซียน2020 เวียดนามได้ประสานความร่วมมือเพื่อผลักดันกิจกรรมด้านสาธารณสุขระหว่างสหรัฐ-อาเซียนทั้งในการแลกเปลี่ยนข้อมูล ประสบการณ์และการยกระดับทักษะในการป้องกันโควิด-19

หนึ่งในความสนใจอันดับต้นๆปัจจุบันคือต้องค้ำประกันแนวโน้มการพัฒนาที่เข้มแข็ง ของ เศรษฐกิจการค้าการลงทุนและการสนับสนุนกระบวนการฟื้นฟูเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ โดยการเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่อุปทานโลกเนื่องจากผลกระทบของโควิดกำลังสร้างโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายขยายความร่วมมือด้านการลงทุนมากขึ้น ซึ่งรัฐบาลเวียดนามให้คำมั่นปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนในเวียดนามต่อไปเช่นเดียวกับการอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการสหรัฐเพื่อให้สหรัฐกลายเป็นนักลงทุนรายใหญ่อันดับหนึ่งของเวียดนาม เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำสหรัฐ ฮากิมหงอกได้เผยว่า “กระบวนการสร้างเสริมความไว้วางใจในตลอดเวลา25ปีที่ผ่านมาได้บรรลุก้าวเดินใหญ่ที่สร้างพื้นฐานให้สองฝ่ายพิจารณาผลักดันการปฏิบัติความคิดสร้างสรรค์ด้านความร่วมมือใหม่ทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคีในเวลาข้างหน้า พร้อมทั้งผลักดันการแก้ไขความท้าทายที่เกิดจากความผันผวนของสถานการณ์โลกและภูมิภาครวมทั้งการธำรงสันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคง การเคารพกฎหมายสากล แก้ไขปัญหาข้อพิพาทในทะเลตะวันออกและเอเชียแปซิฟิกอย่างสันติรวมถึงปัญหาที่คั่งค้างระหว่างสองประเทศ ผมเชื่อมั่นว่าทั้งสองประเทศสามารถขยายผลจากผลงานที่ได้บรรลุใน25ปีที่ผ่านมาได้ดี รวมทั้งฝ่าฟันความท้าทายต่างๆเพื่อนำความสัมพันธ์ทวิภาคีขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่”

ความสัมพันธ์เวียดนาม-สหรัฐในทุกวันนี้ได้พัฒนาเข้มแข็งในทุกด้านและยังมีศักยภาพเพื่อขยายความร่วมมือบนพื้นฐานความไว้วางใจเชิงยุทธศาสตร์ที่ได้รับการเสริมสร้างอย่างต่อเนื่องในตลอด25ปีที่ผ่านมา เราสามารถยืนยันได้ว่าความสัมพันธ์เวียดนาม-สหรัฐกำลังอยู่ในระดับยุทธศาสตร์และจะมีก้าวพัฒนาใหม่อย่างเข้มแข็งในเวลาข้างหน้า/.