42 ปีที่เวียดนามเข้าเป็นสมาชิกของสหประชาชาติ- การผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างกว้างขวาง
Châu Anh -  
(VOVWORLD) - เมื่อวันที่ 20 กันยายนปี 1977 หรือเมื่อ 42 ปีก่อน เวียดนามได้เข้าเป็นสมาชิกของสหประชาชาติซึ่งเป็นองค์การที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างเป็นทางการ ในตลอด 42 ปีที่ผ่านมา เวียดนามได้ก้าวรุดหน้าไป กลายเป็นหนึ่งในประเทศที่เดินหน้าในการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆของสหประชาชาติและมีเสียงพูดที่นับวันสำคัญบนเวทีขององค์การนี้
เมื่อวันที่ 5 ตุลาคมปี 2009 ณ สำนักงานใหญ่ของสหประชาชาติในนครนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศ ฝ่ามยาเคียม ได้เป็นประธานการหรือของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ(vietnamplus) |
การที่เวียดนามเข้าเป็นสมาชิกของสหประชาชาติอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 กันยายนปี 1977 ได้สร้างนิมิตหมายแห่งการรับรองจากองค์การที่ใหญ่ที่สุดในโลกและประชาคมโลกต่อประเทศเวียดนามที่สันติภาพ เอกภาพ เอกราช เสรีภาพและมีประชาธิปไตย ในตลอดกว่า 4 ทศวรรษที่ผ่านมา เวียดนามและสหประชาชาติได้พยายามเสริมสร้างและพัฒนาความสัมพันธ์ร่วมมือที่นับวันดีงามด้วยผลงานที่น่ายินดีพร้อมศักยภาพการพัฒนาในหลายด้าน
จากที่เคยเป็นประเทศที่ได้รับการช่วยเหลือมาเป็นประเทศที่เป็นฝ่ายรุกสนับสนุนกิจกรรมต่างๆของสหประชาชาติ
ในช่วงเริ่มเข้าเป็นสมาชิกของสหประชาชาติ เวียดนามได้รับการช่วยเหลืออย่างเข้มแข็งจากองค์การนี้เพื่อฟันฝ่าอุปสรรคหลังสงคราม เช่นเดียวกับในระยะที่ประเทศถูกปิดล้อมและคว่ำบาตร ในช่วงปลายปี 1970 และช่วงต้นปี 1980 นอกจากแหล่งเงินช่วยเหลือจากประเทศสังคมนิยม การช่วยเหลือของสหประชาชาติยังคิดเป็นร้อยละ 60 ของยอดการช่วยเหลือให้แก่เวียดนาม
ในภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ ผลักดันการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยและการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก สหประชาชาติได้ให้การช่วยเหลือเวียดนามอย่างเข้มแข็งด้วยแหล่งเงินสนับสนุนถึงร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี พร้อมกับกิจกรรมให้คำปรึกษาด้านนโยบาย การช่วยเหลือด้านเทคนิค โครงการพหุภาคีและทวิภาคี ซึ่งช่วยให้เวียดนามเข้าถึงและระดมแหล่งพลังสำคัญจากประเทศอุปถัมภ์และองค์กรการเงินระหว่างประเทศเพื่อปฏิบัติเป้าหมายพัฒนาเศรษฐกิจสังคมให้ประสบความสำเร็จ
จากที่เคยเป็นประเทศที่รอแต่รับความช่วยเหลือเท่านั้น ปัจจุบัน เวียดนามได้เริ่มมีส่วนร่วมที่เข้มแข็งต่อกิจกรรมของสหประชาชาติ อดีตเอกอัครราชทูตเวียดนามประจำสหประชาชาติ โงกวางซวน ได้กล่าวถึงความทรงจำว่า “เมื่อปี 1995 พวกเราได้เริ่มพิจารณาการเข้าร่วมกลไกการบริหารของสหประชาชาติ โดยเมื่อปี 1995 ที่มีการจัดการประชุมสมัชชาใหญ่ของสหประชาชาติสมัยที่ 50 และเวลาต่อมาคือสมัยที่ 51 และ สมัยที่ 52 พวกเราได้เริ่มผลักดันการเข้าร่วมกิจกรรมของสหประชาชาติ และแสวงหาโอกาสดำรงตำแหน่งบริหารของสหประชาชาติ ในการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติสมัยที่ 52 เวียดนามได้ประสบความสำเร็จในการเข้าเป็นสมาชิกของสภาเศรษฐกิจ-สังคมของสหประชาชาติและเวียดนามได้ทำหน้าที่รองประธานครั้งแรกในสหประชาชาติ ซึ่งเหตุการณ์นี้ได้สร้างนิมิตหมายใหม่ในกิจกรรมพหุภาคี เวียดนามได้เข้าร่วมกลไกการบริหารของสหประชาชาติ ตลอดจนเข้าร่วมคณะผู้บริหารของภาคอื่นๆและองค์การระหว่างประเทศต่างๆ ดังนั้น สถานะของเวียดนามได้เริ่มเปลี่ยนแปลงและก้าวรุดหน้ามากขึ้น”
การเริ่มต้นที่สะดวกดังกล่าวได้สร้างพื้นฐานให้แก่ความสำเร็จต่างๆในความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับสหประชาชาติ นั่นคือเวียดนามได้บรรลุการปฏิบัติ 8 เป้าหมายแห่งสหัสวรรษก่อนกำหนดปี 2015 เป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติวาระปี 2008-2009และวาระปี 2020-2021 สมาชิกของสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติวาระปี 2014-2016 เวียดนามยังเข้าร่วมและมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งต่อข้อคิดริเริ่มในการสร้างปฏิบัติการที่เป็นเอกฉันท์ของสหประชาชาติ-1สหประชาชาติและเข้าร่วมกองกำลังรักษาสันติภาพในแอฟริกากลางและซูดานใต้
ประธานประเทศ เหงียนมิงเชียด พบปะกับเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ บันคีมุน ในโอกาสเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติสมัยที่ 64 ณ นครนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐเมื่อปี 2009 (vietnamplus) |
ได้รับการชื่นชมจากประชาคมโลก
ประเทศสมาชิกของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติให้ความสำคัญต่อส่วนร่วมที่มีความรับผิดชอบของเวียดนามต่อส่วนงานของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและชื่นชมสถานะของเวียดนามที่นับวันเพิ่มมากขึ้น ประชาคมโลกประเมินว่า เวียดนามได้พยายามมีส่วนร่วมต่อการยกระดับประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของสำนักงานต่างๆของสหประชาชาติ เวียดนามได้แสดงให้เห็นว่า เป็นประเทศที่น่าไว้วางใจผ่านการให้ความสำคัญต่อกฎหมายสากล อีกทั้งชื่นชมส่วนร่วมที่เข้มแข็งของเวียดนามในการป้องกันการปะทะในโลก นาย Kamal Malhotra ผู้ประสานงานของสหประชาชาติในเวียดนามได้ประเมินว่า “ถ้าพวกเรากล่าวถึงผลงานใน 10 ปีมานี้ เวียดนามสามารถมีความภาคภูมิใจที่ได้อยู่ในกลุ่มประเทศนำหน้าของข้อคิดริเริ่มในการสร้างปฏิบัติการที่เป็นเอกฉันท์ของสหประชาชาติ-1สหประชาชาติ เวียดนามเดินหน้าในระยะดังกล่าวอยู่เสมอ ผมหวังว่า สิ่งนี้จะได้รับการธำรงและสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่กิจกรรมต่อไป นอกจากนั้น มีอีกหนึ่งด้านที่เวียดนามมีส่วนร่วมซึ่งผมสนับสนุนเป็นอย่างมาก นั่นคือการเข้าร่วมกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ ผมคิดว่า จากการเป็นประเทศที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากสงครามเป็นเวลา 35 ปีการที่เวียดนามได้มีส่วนร่วมดังกล่าวถือเป็นสัญลักษณ์ให้แก่ประชาคมโลกที่ใฝ่สันติภาพ”
ด้วยการกำหนดแนวทางคือเวียดนามเป็นฝ่ายรุกในการเข้าร่วมและส่งเสริมบทบาทในกลไกพหุภาคี โดยเฉพาะอาเซียนและสหประชาชาติ ในเวลาที่จะถึง เวียดนามจะเป็นฝ่ายรุกมีส่วนร่วมต่อหน้าที่ของสหประชาชาติต่อไป โดยเฉพาะบทบาทเป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติวาระปี 2020-2021 เวียดนามจะอยู่เคียงข้างกับประเทศสมาชิก ผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่มีความยุติธรรม เสมอภาค มิตรภาพและค้ำประกันผลประโยชน์ที่ชอบธรรมของทุกประเทศในทั่วโลก.
Châu Anh