นาง เหงียนถิเหละถวี

เมื่อปี 2019 หลังจากเรียนจบการฝึกอาชีพทำเครื่องเฟอร์นิเจอร์หวายเทียม นาง เหงียนถิเหละถวี จากหมู่บ้านกิงเต๊ ตำบังแกงถ่วน อำเภอเวินแกง จังหวัดบิ่งดิ๋งได้ลองเปิดโรงงานผลิตที่บ้าน โดยใช้เงินลงทุนเกือบ 100 ล้านด่งเพื่อซื้อเครื่องจักรต่างๆสำหรับการสานเฟอร์นิเจอร์ แล้วติดต่อบริษัทต่างๆในจังหวัดฯเพื่อจะได้รับใบสั่งซื้อ ในตอนแรก เธอได้รับใบสั่งซื้อจำนวนมากจึงจ้างชาวบ้านช่วยทำด้วย ซึ่งมีส่วนร่วมแก้ปัญหางานทำให้แก่ชนกลุ่มน้อยเผ่าจามในท้องถิ่นจำนวนหนึ่ง แต่ถึงปี 2021 การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ได้ส่งผลยอดสั่งซื้อลดลงจนเธอไม่มีเงินจ่ายเงินเดือนให้แก่ลูกจ้าง ซึ่งในช่วงนั้น กองทุน “เยาวชนบิ่งดิ๋งสตาร์ทอัพ” ได้ให้เธอกู้เงิน 150 ล้านด่งด้วยดอกเบี้ยร้อยละ 0.3 เพื่อธำรงการผลิตและจ่ายเงินเดือนให้แก่แรงงาน เธอบอกว่า

“ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาด เราต้องรอเงินจากบริษัทนานมาก จึงตัดสินใจกู้เงินจากกองทุนเยาวชนฯ เพื่อเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงาน ปัจจุบันนี้ เรามีแรงงาน 20 คนกำลังทำงานที่โรงงานและอีกหลายๆคนรับงานไปทำที่บ้าน”

นาย บุ่ยคั๊กบ๋าว เจ้าของโรงงานตัดเย็บชุดยูนิฟอร์ม เทียนเอิน

นาย บุ่ยคั๊กบ๋าว เจ้าของโรงงานตัดเย็บชุดยูนิฟอร์ม เทียนเอิน ในเขตบุ่งเซิน ตำบล หว่ายเญิน จังหวัดบิ่งดิ๋ง บอกว่าในช่วงที่ประสบความยากลำบากเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 เขาได้กู้เงิน 200 ล้านด่งจากกองทุนเยาวชนฯ เพื่อซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์เพิ่มเติมและนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้เพื่อสามารถทำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆและสร้างงานทำให้แก่แรงงานในท้องถิ่น เขาบอกว่า

“ผมกำลังตัดยูนิฟอร์มให้แก่ร้านค้าและบริษัทต่างๆ ในเร็วๆนี้ ผมจะขยายโรงงานและซื้อวัตถุดิบเพิ่มเติมเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ซึ่งจะช่วยให้เรามีลูกค้าเพิ่มขึ้นและสามารถขยายตลาดไปยังท้องถิ่นอื่นๆ เช่น นครโฮจิมินห์ จังหวัดบิ่งเยือง จังหวัดด่งนายและจังหวัดดั๊กลั๊ก”

ถึงขณะนี้ กองทุน “เยาวชนบิ่งดิ๋งสตาร์ทอัพ” ได้ให้เยาวชนกู้เงินด้วยดอกเบี้ยต่ำเกือบ 3.5 พันล้านด่งเพื่อปฏิบัติโครงการสตาร์ทอัพ 18 โครงการ นาย ห่ายวีจุง เลขาธิการกองเยาวชนสาขาจังหวัดบิ่งดิ๋งเผยว่า จากความสะดวกในขั้นตอนการกู้เงินด้วยดอกเบี้ยต่ำ ทำให้สามารถโครงการต่างๆสามารถเดินหน้าได้ ซึ่งสร้างรายได้สูงให้แก่เยาวชน

“กองทุนนี้อำนวยความสะดวกให้เยาวชนสามารถเข้าถึงได้ง่ายเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจในท้องถิ่น ช่วยเยาวชนสร้างฐานะที่มั่นคงในท้องถิ่นและมีส่วนร่วมสร้างงานทำ โดยเฉพาะเยาวชนในท้องถิ่น นั่นคือวิธีการระดมความสามัคคีของเยาวชนในท้องถิ่น”