(VOVWORLD) -ปัจจุบันนี้ การทำธุรกิจสตาร์ทอัพได้กลายเป็นขบวนการที่ได้รับการขานรับอย่างเต็มที่ในหมู่เยาวชน แต่เพื่อประสบความสำเร็จ แหล่งเงินทุนถือเป็นปัจจัยที่สำคัญเป็นอย่างมาก ที่จังหวัดเซินลา ในแต่ละปี มีโครงการธุรกิจสตาร์ทอัพนับสิบโครงการที่ได้รับการปฏิบัติเนื่องจากการสนับสนุนเงินกู้ด้วยดอกเบี้ยพิเศษจากโครงการ “วันงานแห่งการประหยัด – เพื่ออนาคตแห่งสีเขียว” ซึ่งช่วยให้เยาวชนสร้างฐานะและปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น พร้อมทั้งมีส่วนร่วมปฏิบัติเป้าหมายการแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน รักษาสวัสดิการสังคมและสร้างสรรค์ชนบทใหม่ในจังหวัดฯ
กระชังปลาโครงเหล็กของนาย ดึ๊ก |
นาย หล่อวันดึ๊ก อายุ 37 ปีในหมู่บ้าน เฟียงหัวหน่า ตำบล เหมื่องชาย อำเภอ เหมื่องลา จังหวัดเซินลา รู้สึกกังวลอยู่เสมอเกี่ยวกับการสร้างฐานะเพราะเป็นคนหาเลี้ยงครอบครัว แต่โชคดีที่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ด้วยดอกเบี้ยพิเศษจำนวน 100 ล้านด่งจากโครงการ “วันงานแห่งการประหยัด – เพื่ออนาคตแห่งสีเขียว” ของธนาคารนโยบายสังคม เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2021 เขาได้กู้เงินซื้อกระชังปลาโครงเหล็ก 6 กระชังเพื่อใช้แทนกระชังไม้ไผ่เดิม 2 กระชัง
“เมื่อก่อน ผมปลูกข้าวเท่านั้น แต่ปัจจุบันนี้ หลังจากได้กู้เงินจากธนาคารฯด้ 100 ล้านด่ง ผมได้ลงทุนเพาะเลี้ยงปลาในกระชังโครงเหล็ก เมื่อก่อน ผมเคยเลี้ยงปลาในกระชังไม้ไผ่แต่ขาดประสิทธิภาพ ท้องถิ่นที่นี่มีศักยภาพในการเลี้ยงปลาในกระชังเพราะมีน้ำสะอาดและมีสิ่งแวดล้อมดี”
เพื่อหาเงินให้ได้อย่างรวดเร็วเพื่อทำธุรกิจต่อไป นาย ดึ๊ก ได้เพาะเลี้ยงปลาที่โตเร็วและเลี้ยงง่าย เช่น ปลานิล ปลาเฉาและปลากดคัง ที่เลี้ยงง่าย สามารถเลี้ยงด้วยขยะจากการเกษตรและไม่ค่อยป่วยเป็นโรค
“เราสามารถใช้ต้นข้าวโพด ต้นกล้วยหรือขยะจากการเกษตรมาใช้เป็นอาหารเลี้ยงปลาเหล่านี้ เราให้อาหารปลาวันละ 2 ครั้ง คือในตอนเช้าและตอนเย็น ส่วนวิธีการป้องกันโรคก็ง่าย คือ โรยปูนขาวรอบกระชัง แขวนถุงปูนขาวไว้กลางกระชังหรือใช้ยาปฏิชีวนะผสมรำข้าวแล้วให้ปลากิน”
จากการมีอาชีพเลี้ยงปลาบวกกับความขยันหมั่นเพียรและใฝ่ศึกษาหาข้อมูล นายดึ๊ก ก็พยายามถอดประสบการณ์ในระหว่างการเลี้ยง โดยในตลอด 20 เดือนนับตั้งแต่ที่กู้เงินทำธุรกิจสตาร์ทอัพ เขาสามารถขายปลาได้กว่า 10 ตัน ได้กำไรประมาณ 50 ล้านด่งหรือ 2,100 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งกลายเป็นตัวอย่างให้ชาวบ้านปฏิบัติตาม นาง กว่างถิเหวียด ในหมู่บ้านเพียงหัวหน่า ตำบลเหมื่องชาย กล่าวว่า
“เหมื่องชายมีศักยภาพสูงในการเลี้ยงปลาในกระชัง เราได้ไปศึกษาหาข้อมูลและเรียนรู้ประสบการณ์จากรูปแบบของนาย หล่อวันดึ๊ก เพื่อนำมาขยายผลในท้องถิ่น ช่วยให้เยาวชนสามารถปฏิบัติตาม”
นอกจากเลี้ยงปลาในกระชัง นาย หล่อวันดึ๊ก ยังเลี้ยงปศุสัตว์อีกด้วย |
นอกจากเลี้ยงปลาในกระชัง นาย หล่อวันดึ๊ก ยังปลูกข้าวโพดและมันสำปะหลังอีกเกือบ 2 เฮกตาร์และเลี้ยงปศุสัตว์ สร้างรายได้กว่า 100 ล้านด่งหรือ 4,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี สำหรับเยาวชนรุ่นใหม่เหมือนนาย หล่อวันดึ๊ก การทำธุรกิจสตาร์ทอัพมีความหมายสำคัญในเพิ่มคุณภาพให้แก่ชีวิตและเงินกู้ด้วยดอกเบี้ยพิเศษถือเป็นกุญแจและเป็นพลังขับเคลื่อนในการผลักดันการทำธุรกิจสตาร์ทอัพของเยาวชน
“การที่จะมีเงินทุน 100 ล้านด่งหรือ 4,200 ดอลลาร์สหรัฐเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมากสำหรับเกษตรกรอย่างพวกเรา ดังนั้น เราดีใจเป็นอย่างมากที่ได้รับเงินกู้นี้จากทางธนาคารฯ ซึ่งถือเป็นพื้นฐานให้เราพัฒนาฐานะต่อไป”
ถึงแม้ว่า การทำธุรกิจสตาร์ทอัพของนาย หล่อวันดึ๊ก ยังเป็นรูปแบบเล็ก ๆแต่ก็เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า นโยบายนี้มีบทบาทสำคัญในการก่อตั้งและขยายผลรูปแบบนี้ในหมู่เยาวชน ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งเสริมศักยภาพและจุดแข็งของท้องถิ่นเท่านั้น หากยังเปิดแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนในเขตแม่น้ำด่าอีกด้วย.