พลังขับเคลื่อนสำหรับสถานประกอบการสตาร์ทอัพเวียดนาม
Ba Thi -  
(VOVWORLD) -การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ได้ส่งผลกระทบในทางลบต่อการประกอบธุรกิจต่างๆ รวมทั้งการทำธุรกิจสตาร์ทอัพ แต่อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริง ชมรมสถานประกอบการสตาร์ทอัพยังคงมีโอกาสและพลังขับเคลื่อนเพื่อพัฒนาต่อไป
นาย ฝ่ามต๊วนเหียบ ผู้อำนวยกลุ่มบริษัท BKHoldings (ulis.vnu.edu.vn) |
ทบวงสถิติรายงานว่า จำนวนสถานประกอบการจดทะเบียนใหม่ใน 6 เดือนแรกของปี 2021 อยู่ที่กว่า 67,000 แห่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2020 โดยเฉพาะในด้านเงินทุนจดทะเบียนได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 34.3 ซึ่งใน 6 เดือนแรกของปี 2021 จำนวนสถานประกอบการใหม่และสถานประกอบการที่กลับมาประกอบธุรกิจอีกครั้งอยู่ที่กว่า 93,000 แห่ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2020 ส่วนเงินทุนจดทะเบียนของสถานประกอบการใหม่เฉลี่ยอยู่ที่ 1 หมื่น 4พันล้านด่ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 24
ทางทบวงฯได้ประเมินว่า จำนวนและเงินทุนของสถานประกอบการใหม่ที่เพิ่มขึ้นแสดงให้เห็นถึงความพยายามและจิตใจแห่งการสตาร์ทอัพของสถานประกอบการในสภาวะการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่กำลังซับซ้อน นี่ยังเป็นข้อสังเกตของผู้เชี่ยวชาญและผู้บริหารหลายคนในด้านการทำธุรกิจสตาร์ทอัพ นาย ฝ่ามต๊วนเหียบ ผู้อำนวยกลุ่มบริษัท BKHoldings ซึ่งเป็นรูปแบบสถานประกอบการแห่งแรกในมหาวิทยาลัยของเวียดนาม ซึ่งเป็นสมาชิกคณะกรรมการบริหารของ Techfest VietNam และตัวแทนของกองทุนสตาร์ทอัพนวัตกรรม BKFun แสดงความคิดเห็นว่า “สถานประกอบการสตาร์ทอัพด้านนวัตกรรมมีจุดแข็งคือ จิตใจแห่งการเปลี่ยนแปลงใหม่และความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งมีผู้บริหารที่มีความคล่องตัวและสามารถทำงานได้หลายอย่าง สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะมีจิตใจแห่งการสตาร์ทอัพสูงมาก พร้อมพยายามฟันฝ่าอุปสรรคและความท้าทายต่างๆอยู่เสมอ นั่นคือสิ่งที่น่ายินดี”
ส่วนนาย เหงียนหิวเลือง รองผู้อำนวยการศูนย์สนับสนุนสถานประกอบการฮานอยสังกัดสำนักงานวางแผนและการลงทุนฮานอย ซึ่งเป็นตัวแทนปฏิบัติโครงการ 4889 ที่ “สนับสนุนการทำธุรกิจสตาร์ทอัพนวัตกรรมในกรุงฮานอยระยะปี 2019 – 2025” กล่าวว่า ชมรมสถานประกอบการสตาร์ทอัพกำลังถือสถานการณ์ที่เป็นจริงที่เต็มไปด้วยความท้าทายในปัจจุบันเป็นพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนา นอกจากนี้ การทำธุรกิจสตาร์ทอัพยังมีพลังขับเคลื่อนใหม่อีกอย่างหนึ่ง นั่นคือได้รับการดูแลเอาใจใส่และการอำนวยความสะดวกจากภาครัฐเพิ่มมากขึ้น นายเลืองยืนยันว่า “การเปลี่ยนแปลงในปัจจุบันคือพลังขับเคลื่อนให้สถานประกอบการสตาร์ทอัพ พยายามหาผลิตภัณฑ์ การบริการและรูปแบบการประกอบธุรกิจใหม่ๆที่สอดคล้องกับสภาวการณ์ใหม่ ในความเป็นจริง ในเวลาที่ผ่านมา รูปแบบใหม่ๆเหล่านี้มีความได้เปรียบมากกว่าเมื่อเทียบกับรูปแบบการประกอบธุรกิจเก่าๆ ส่วนภาครัฐก็พิจารณา ปรับปรุงและประกาศนโยบายสนับสนุนต่างๆ เพื่อให้นโยบายเหล่านี้นับวันสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เป็นจริงมากขึ้น ซึ่งนอกจากสนับสนุนโดยตรงแล้ว ภาครัฐยังให้การสนับสนุนในด้านพื้นฐาน เช่น การปฏิรูประเบียบราชการและการยกระดับคุณภาพการบริหารภาครัฐ”
นาง เลซุง CEO และผู้อำนวยการใหญ่บริษัทหุ้นส่วนการฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากร Dgroup (cafef.vn) |
ที่น่าสนใจคือ การเข้าถึงแหล่งเงินทุน ซึ่งเป็นหนึ่งในปัญหาที่ท้าทายมากที่สุดของสถานประกอบการสตาร์ทอัพ ได้มีการเปลี่ยนแปลงที่น่ายินดี นาง เลซุง CEO และผู้อำนวยการใหญ่บริษัทหุ้นส่วนการฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากร Dgroup แสดงความคิดเห็นว่า โอกาสในการเข้าถึงเงินทุนสำหรับสถานประกอบการสตาร์ทอัพในตอนนี้มีเยอะมาก “ใน 4 ปีมานี้ มีกองทุนพัฒนาสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม ซึ่งเมื่อก่อนจะดำเนินงานผ่านองค์กรสินเชื่อ แต่ตั้งแต่ปี 2021 กองทุนนี้สามารถช่วยเหลือสถานประกอบการได้โดยตรง นี่คือโอกาสที่ดีสำหรับสถานประกอบการ นอกจากนี้ สถานประกอบการสามารถระดมเงินทุนได้อย่างสะดวกผ่านกลไกการกู้เงิน P2P ซึ่งหมายความว่า สถานประกอบการสตาร์ทอัพสามารถกู้เงินจากสถานประกอบการที่ไม่ใช่ธนาคาร ถึงขณะนี้ มีสถานประกอบการที่เข้าร่วมกิจกรรมนี้ประมาณ 100 แห่ง ซึ่งเป็นแหล่งจัดสรรเงินทุนที่ดีให้แก่สถานประกอบการสตาร์ทอัพ”
หวังว่า จากพลังขับเคลื่อนต่างๆพร้อมการอำนวยความสะดวกที่มีอยู่ การทำธุรกิจสตาร์ทอัพจะพัฒนาต่อไป เพื่อมีส่วนร่วมต่อความพยายามปฏิบัติเป้าหมาย 2 อย่างของรัฐบาลคือ ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ควบคู่กับการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของประเทศ./.
Ba Thi