อี- คอมเมิร์ซหลังวิกฤตโควิด -19 โอกาสและความท้าทายของสตาร์ทอัพเวียดนาม (ictvietnam.vn)

ในหลายปีมานี้ ตลาดอี – คอมเมิร์ซในเวียดนามมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ที่น่ายินดีต่างๆ โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ได้ทำให้ อี – คอมเมิร์ซแสดงให้เห็นถึงจุดเด่นในการขายของออนไลน์ที่สะดวก พร้อมทั้งเปิดโอกาสใหม่ๆให้แก่สตาร์ทอัพเวียดนาม นาย เหงียนด่งห่า ผู้อำนวยการฝ่ายมาร์เกตติ้งของกลุ่มบริษัท Vietchem แสดงความคิดเห็นว่า นี่ยังเป็นโอกาสให้สถานประกอบการประชาสัมพันธ์เครื่องหมายการค้าและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ต่อลูกค้าและหุ้นส่วน “การเข้าร่วมแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซต่างประเทศช่วยให้สถานประกอบการสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับยุทธศาสตร์และกำหนดแนวทางพัฒนาให้แก่ผลิตภัณฑ์และปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้มีความสมบูรณ์อย่างรวดเร็วและเรียบง่าย สตาร์ทอัพขนาดย่อม โดยเฉพาะสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีสามารถใช้จุดแข็งของตน เช่น เทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยีดิจิทัลและความสามารถในการเข้าถึงลูกค้า เป็นต้น สามารถเข้าร่วมการซื้อขายของผู้บริโภคโดยไม่ต้องใช้เงินสด ร่วมมือกับสถานประกอบการใหญ่ๆเพื่อพัฒนาบริการระหว่างประเทศหรือโลจิสติกส์เพื่อลดค่าใช้จ่ายและนำความหลากหลายมาให้แก่ลูกค้า”

เวียดนามกำลังเป็นตลาดที่มีอัตราการขยายตัวของอี – คอมเมิร์ซรวดเร็วที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งคาดว่า อัตราการขยายตัวนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยในปี 2020 ได้บรรลุมูลค่า 1 หมื่น 1 พัน 8 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเฉพาะ หลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 อี – คอมเมิร์ซได้เติบโตอย่างรวดเร็วและเป็น trend ใหม่ในการบริโภค ปัจจุบันนี้ ประชากรเวียดนามกว่าร้อยะ 70 ใช้อินเตอร์เน็ต ซึ่งในนั้นเกือบร้อยละ 50 ได้ซื้อของออนไลน์ ร้อยละ 53 ใช้ e-wallets และชำระค่าสินค้าออนไลน์ โดยเฉพาะที่กรุงฮานอยและนครโฮจิมินห์ การซื้อขายผ่านอี – คอมเมิร์ซคิดเป็นร้อยละ 70 ของปริมาณการซื้อขายทั้งหมดผ่านอี – คอมเมิร์ซ

นาย เจิ่นวันตุ่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (congluan.vn)

ในยุคชีวิตวิถีใหม่ อี – คอมเมิร์ซกำลังมีก้าวพัฒนาอย่างรวดเร็ว มีบทบาทสำคัญในการผลักดันกระบวนการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ดังนั้นการช่วยให้อี – คอมเมิร์ซพัฒนาต่อไปในช่วงหลังวิกฤตโควิด – 19 จะเป็นพื้นฐานและเป็นพลังขับเคลื่อนให้แก่สถานประกอบการสตาร์ทอัพและอนาคตของเศรษฐกิจดิจิทัล ตามข้อมูลสถิติเบื้องต้นพบว่า การซื้อขายผ่านอี – คอมเมิร์ซใน 8 สัปดาห์ที่เกิดการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงของโรคโควิด – 18 มีปริมาณเท่ากับการซื้อขายในช่วง 10 ปีก่อน จำนวนแรงงานในภาคธุรกิจออนไลน์เพิ่มขึ้น 20 เท่าภายในรอบ 3 เดือนและจำนวนผู้ใช้บริการตรวจรักษาโรคทางไกลได้เพิ่มขึ้น 10 เท่าภายใน 15 วัน นาย เจิ่นวันตุ่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเผยว่า นี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักธรุกิจ สถานประกอบการ โดยเฉพาะชมรมสถานประกอบการสตาร์ทอัพ “สตาร์ทอัพในด้านอี – คอมเมิร์ซเป็นแนวโน้มที่กำลังพัฒนาอย่างเข้มแข็งในทั่วโลก โดยเฉพาะในเอเชีย – แปซิฟิก สถานประกอบการทำธุรกิจสตาร์ทอัพในด้านนี้จะมีส่วนร่วมผลักดันการแลกเปลี่ยนและการซื้อขายสินค้าผ่านทางออนไลน์ ถึงแม้ยังไม่มีการทำสถิติเกี่ยวกับจำนวนสถานประกอบการทำธุรกิจสตาร์อัพท์ด้านอี – คอมเมิร์ซแต่ถ้าหากเห็นความสำเร็จของสตาร์อัพท์ในด้านนี้ เราสามารถสรุปได้ว่า มีสถานประกอบการสตาร์ทอัพในด้านนี้ประมาณ 387 แห่ง ซึ่งได้สำเร็จในเบื้องต้นแล้ว ทางกระทรวงฯ จะร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์เปิดโอกาสให้แก่สถานประกอบการสตาร์ทอัพเพื่อมีส่วนร่วมพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของประเทศและระบบนิเวศสตาร์ทอัพในเวียดนาม”

แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อสามารถใช้โอกาสจากอี – คอมเมิร์ซได้อย่างเต็มที่ สตาร์ทอัพเวียดนามกำลังพัฒนาจุดเด่นของตนในแพลตฟอร์มอี – คอมเมิร์ซและวิจัยเกี่ยวกับผู้บริโภคเพื่อสามารถให้บริการอย่างรอบด้านต่อลูกค้า พร้อมทั้งเพิ่มการรักษาความลับและความปลอดภัยให้แก่ข้อมูลของลูกค้า  หลังวิกฤตโควิด -19 โอกาสและความท้าทายต่างๆจะเป็นแรงกระตุ้นให้อี – คอมเมิร์ซเวียดนามพัฒนาต่อไปและเปิด trend ใหม่ๆให้แก่การบริโภคในเวลาที่จะถึง.