ในโอกาสเข้าร่วมเปิดงานแสดงสินค้า Top Thai Brands 2019 ณ นครโฮจิมินห์ นาง สุภาพร สุขมาก ผู้อำนวยการสำนักงานการค้าในต่างประเทศที่นครโฮจิมินห์ของกระทรวงพาณิชย์ไทยได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเกี่ยวกับการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนการค้าระหว่างเวียดนามกับไทยตามประเด็นดังนี้ :

ท่านประเมินอย่างไรเกี่ยวกับการจำหน่ายสินค้าไทย รวมทั้งสินค้า Top Thai Brands 2019 ในเวียดนามในปัจจุบัน

ปัจจุบัน สินค้าไทยก็มาจำหน่ายและวางขายในเวียดนาม ในขณะเดียวกันก็มีสินค้าเวียดนามจำหน่ายในประเทศไทยเช่นกัน ซึ่งสินค้าไทยที่มาจำหน่ายในประเทศเวียดนามคือสินค้าอุปโภคบริโภค เราก็จะเห็นสินค้านี้อยู่ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตในนครโฮจิมินห์ ซึ่งตรงนี้ก็ช่วยประชาสัมพันธ์และเป็นการแสดงให้เห็นว่า ชาวเวียดนามชอบสินค้าไทย สินค้าไทยมีคุณภาพ

ในเวลาที่ผ่านมา มีสถานประกอบการ Top Thai Brands 2019 หลายแห่งขยายการประกอบธุรกิจในเวียดนามหรือไม่

มีนักลงทุนของไทยเข้ามาลงทุนในเวียดนาม เพราะปัจจุบัน ตลาดเวียดนามมีศักยภาพทางด้านเศรษฐกิจ มีความก้าวหน้า มีการเติบโตทางเศรษฐกิจแบบก้าวกระโดด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่นักลงทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะนักลงทุนไทยก็หันมาสนใจในการลงทุน ตั้งโรงงานผลิตสินค้าในเวียดนาม ซึ่งปัจจุบันก็มีสินค้า โรงงานไทยที่มาตั้งในหลายโรงงาน ไม่ว่าจะเป็น CP บริษัทผลิตสีในการทาบ้านและทำเต้าหู้ แม้กระทั่ง ในส่วนภาคพลังงานก็มี solar energy ซึ่งนักลงทุนไทยให้ความสนใจและหันมาลงทุนในเวียดนาม

ในช่วงปี ๒๐๑๙ ถึงปี ๒๐๒๐ สำนักงานการค้าในต่างประเทศของกระทรวงพาณิชย์ไทยจะมีกิจกรรมอะไรเพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนการค้าระหว่างสองประเทศ

นอกเหนือจากการจัดกิจกรรม Top Thai Brands ที่นครโฮจิมินห์และที่กรุงฮานอยแล้ว ก็มีการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการค้าระหว่างสองประเทศ ไม่ว่าจะมีการจัด Business Matching ระหว่างไทยกับเวียดนาม โดยมีการนำนักธุรกิจมาที่ประเทศเวียดนามในการส่งเสริมพันธมิตร การค้าและการลงทุนในเวียดนาม ในขณะเดียวกัน ก็มีภาคเอกชนธุรกิจไทยนำนักธุรกิจเวียดนามและสินค้าเวียดนามไปจัดแสดงและจำหน่ายที่ประเทศไทยเป็นประจำทุกปี และคาดว่า ปีนี้จะมีกำหนดจัดกลางปีนี้แน่นอนค่ะ

สำนักงานการค้าในต่างประเทศของกระทรวงพาณิชย์ไทยจะมีกิจกรรมอะไรที่ประสานกับเวียดนามเพื่อให้การช่วยเหลือสถานประกอบการเวียดนามเข้าถึงตลาดไทย

ในเรื่องส่งเสริมและสนับสนุนสินค้าเวียดนามในการขยายในประเทศเวียดนามและขยายไปยังต่างประเทศ ทางกระทรวงพาณิชย์และสำนักงานส่งเสริมการค้าต่างประเทศมีคู่หาให้กับผู้ประกอบการชาวเวียดนามฟรีตามปฏิญญาโครงการ ซึ่งจะเชิญนักธุรกิจชาวเวียดนามเข้าไปจัดงานแสดงสินค้าในประเทศไทย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการขยายตลาด โอกาสสินค้าของไทยในเวียดนาม ซึ่งในงานดังกล่าว เราได้เชิญคู่ค้า นักธุรกิจจากต่างประเทศมาชมงานและมาจัดการซื้อสินค้าและจัดงาน Business Matching เพราะฉะนั้นจะเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่ช่วยประชาสัมพันธ์สินค้าของเวียดนามสู่ประเทศไทยและสู่ตลาดโลก ในงานดังกล่าวเรามีทั้งหมด ในปีนี้ มีสองงานจำนวนสี่ครั้งคืองาน Bangkok Gems and Jewelry จะเป็นงานแสดงสินค้าเครื่องประดับที่มีชื่อเสียงของไทย และงาน Style Bangkok จัดสองครั้งปีเดียวกัน และปีหน้าเราจะเชิญนักธุรกิจเวียดนามไปที่ประเทศไทยออกแสดงสินค้าในงานแสดงสินค้า Thaifex ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าอาหารระดับโลก จะมีนักธรกิจจากต่างประเทศมาชมงาน และเป็นอีกหนึ่งช่องทางเพื่อช่วยประชาสัมพันธ์สินค้าของเวียดนามในประเทศไทยและในต่างประเทศ

เวียดนามและไทยกำลังมุ่งสู่เป้าหมาย มูลค่าการค้าต่างตอบแทนบรรลุ ๒ หมื่นลานดอลลาร์สหรัฐในปี ๒๐๒๐ ท่านประเมินยังไงเกี่ยวกับศักยภาพเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้

ปัจจุบัน ตามตัวเลขของศุลกากรสถิติของเวียดนามจะเห็นได้ว่า มูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศจะอยู่ที่ ๑ หมื่น ๒ พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งดิฉันมั่นใจว่า เราจะไปถึงเป้าหมาย ๒ หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในปี ๒๐๒๐ ซึ่งทั้งสองประเทศก็มีความร่วมมือกัน ไม่ว่าจะเป็นการจัดกิจกรรมควบคู่กันระหว่างสองประเทศ ในเรื่องการลงทุนระหว่างสองประเทศ เพราะฉะนัน ดิฉันมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า เราจะบรรลุเป้าหมาย ๒ หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในปี ๒๐๒๐ ตามที่ผู้นำทั้งสองประเทศได้ตั้งเป้าหมายไว้.