รายการประมวลความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับไทยในเดือนกรกฎาคม
(VOVWORLD) -การค้าและพลังงานเป็นสองด้านความร่วมมือที่โดดเด่นในความร่วมมือระหว่างสองประเทศในเดือนกรกฎาคม
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ บุ่ยแทงเซิน พบปะกับนาย ดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศไทย |
ในโอกาสเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้างครั้งที่ 7 ณ ประเทศเมียนมาร์ นาย บุ่ยแทงเซิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้พบปะกับนาย ดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศไทย ในการนี้ รัฐมนตรี บุ่ยแทงเซินได้เสนอให้ทั้งสองฝ่ายประสานงานในการจัดกิจกรรมฉลองครบรอบ 10 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในปี 2023 ส่งเสริมการเติบโตทางการค้าตามแนวทางที่สมดุล เพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน บรรลุเป้าหมายทำให้มูลค่าการค้าต่างตอบแทนอยู่ที่ 2 หมื่น 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐโดยเร็วและมีความปรารถนาว่า ไทยจะอำนวยความสะดวกให้แก่การส่งออกอาหาร นมและผลิตภัณฑ์นมจากเวียดนามไปยังประเทศไทย ตลอดจนลงนามในข้อตกลงการรับสมัครแรงงานเพื่อทดแทนข้อตกลงที่ลงนามเมื่อปี 2015 ระหว่างเวียดนามกับไทย รัฐมนตรีทั้งสองท่านได้เห็นพ้องที่จะส่งเสริมการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงและการปฏิบัติกลไกความร่วมมือในเวลาที่จะถึง รวมทั้งการประชุมทาบทามความคิดเห็นทางการเมืองเวียดนาม-ไทยครั้งที่ 9 ฟื้นฟูเที่ยวบินพาณิชย์ ตลอดจนการเปิดเส้นทางบินใหม่เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่การท่องเที่ยวและการค้าระหว่างสองประเทศมากขึ้น.
สำหรับด้านพลังงาน ในการให้การต้อนรับนาย ฟานชี้แถ่ง เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทย นาย สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานไทย ได้ชื่นชมการพัฒนาอย่างรวดเร็วของเวียดนามในเวลาที่ผ่านมา โดยเฉพาะด้านพลังงาน พร้อมทั้งยืนยันที่จะสนับสนุนสถานประกอบการของไทยให้ลงทุนในตลาดพลังงานเวียดนามมากขึ้น โดยเฉพาะในด้านพลังงานสะอาด อีกทั้งเสนอให้ทั้งสองฝ่ายร่วมจัดงานฟอรั่มพลังงานครั้งที่ 2 ที่ประเทศไทยในเดือนสิงหาคมนี้เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านพลังงานทวิภาคี ส่วนเอกอัครราชทูตฯ ฟานชี้แถ่ง ได้ย้ำว่า รัฐบาลเวียดนามยังคงให้ความสำคัญต่อโครงการลงทุนต่างๆของกลุ่มผู้ประกอบการไทยในเวียดนาม โดยเฉพาะการพัฒนาด้านพลังงานสะอาด
ภาพของฟอรั่ม (Photo: baocongthuong) |
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการจัดฟอรั่มการเชื่อมโยงระหว่างสถานประกอบการไทยกับหลายท้องถิ่นของเวียดนาม เช่น นครดานัง จังหวัดกว๋างนาม จังหวัดเกียนยาง นครโฮจิมินห์และกรุงฮานอย ซึ่งเป็น 5 ท้องถิ่นที่คณะผู้ประกอบการไทยเชื้อสายเวียดนามกว่า 40 คนมาเยือนเพื่อแสวงหาโอกาสการลงทุนและความร่วมมือเพื่อการพัฒนา การเยือนครั้งนี้เป็นโอกาสเพื่อให้ผู้ประกอบการไทยเชื้อสายเวียดนามศึกษานโยบายส่งเสริมการลงทุน การค้าและการท่องเที่ยวของท้องถิ่นต่างๆ พบปะกับสถานประกอบการในท้องถิ่นเพื่อแสวงหาโอกาสความร่วมมือในระยะยาว ฟอรั่มต่างๆได้มีส่วนช่วยผลักดันความสัมพันธ์มิตรภาพและความร่วมมือในหลายด้านระหว่างท้องถิ่นต่างๆของเวียดนามกับหุ้นส่วนต่างๆของไทย มีส่วนร่วมผลักดันความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างสองประเทศ
กลุ่มเซ็นทรัลรีเทลมีแผนเพิ่มการลงทุนอีก 3 หมื่นล้านบาทในเวียดนามในช่วงปี 2022 -2026 เพื่อปฏิบัติเป้าหมายการขยายช่องทางขายปลีกใน 55 จากจำนวน 63 จังหวัดและนครของเวียดนาม นาย โอลิวิเยร์ แลงเล็ต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเซ็นทรัลรีเทลเวียดนามได้เผยว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเวียดนามได้ช่วยให้กลุ่มเซ็นทรัลรีเทลขยายการประกอบธุรกิจ พร้อมทั้งให้ข้อสังเกตว่า เวียดนามอาจฟื้นฟูอย่างรวดเร็วในปี 2022 และกลายเป็นเศรษฐกิจที่มีอัตราการขยายตัวสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยอัตรการขยายตัวจีดีพีอยู่ที่ร้อยละ 6.5 ในเดือนที่ผ่านมา เซ็นทรัลรีเทลเวียดนามได้เปิด Tops Market สาขา Moonlight Residences ซึ่งนับเป็นสาขาที่ 8 ในประเทศเวียดนามและสาขาที่ 4 ในนครโฮจิมินห์ ปัจจุบัน เซ็นทรัลรีเทลเวียดนามเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญในการพัฒนาความสัมพันธ์ด้านการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับเวียดนาม
งานแสดงสินค้า Made in Thailand Outlet เป็นหนึ่งในกิจกรรมส่งเสริมการประชาสัมพันธ์สินค้าของไทยในกรอบโครงการ “THINK THAILAND” (Photo: สถานทูตไทยประจำเวียดนาม) |
ภายหลังถูกเลื่อนการจัดงานออกไปเป็นเวลา 1 ปีเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 เมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ณ กรุงฮานอย ได้มีการจัดงานแสดงสินค้า Made in Thailand Outlet ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมส่งเสริมการประชาสัมพันธ์สินค้าของไทยในกรอบโครงการ “THINK THAILAND” ในกรอบของงาน ได้มีการแนะนำสินค้าที่มีคุณภาพสูงของไทย เช่น อาหาร เครื่องดื่ม สิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องประดับ เป็นต้น งานแสดงสินค้าดังกล่าวสร้างโอกาสในการเชื่อมโยงด้านการประกอบธุรกิจและการค้าให้แก่ผู้ขายปลีกและบริษัทต่างๆที่แสวงหาโอกาสการประกอบธุรกิจผลิตภัณฑ์ของไทย
กิจกรรมปลูกต้นไม้จำนวน 28 ต้น ณ โรงเรียนอนุบาลฟู้ซวนเอ (Photo: สถานทูตไทยประจำเวียดนาม) |
เมื่อกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา นาย นิกรเดช พลางกูร เอกอัครราชทูตไทยประจำเวียดนามได้เดินทางไปเยือนจังหวัดหวิงฟุก ในการพบปะ ผู้บริหารจังหวัดหวิงฟุกได้ชื่นชมบทบาทของสถานประกอบการไทยในการมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัด ปัจจุบัน ไทยเป็นนักลงทุนลำดับ 4 ของจังหวัดและมีการลงทุน 15 โครงการ ในเวลาที่จะถึง ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะยกระดับความร่วมมือด้านวัฒนธรรม กีฬา การค้า การลงทุน รวมถึงการท่องเที่ยวและการศึกษา ที่จังหวัดหวิงฟุก เอกอัครราชทูต นิกรเดช พลางกูร ได้เป็นประธานในกิจกรรมปลูกต้นไม้จำนวน 28 ต้น ณ โรงเรียนอนุบาลฟู้ซวนเอ ทางสถานทูตฯหวังว่า กิจกรรมปลูกต้นไม้ในครั้งนี้ จะมีส่วนร่วมต่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในท้องถิ่น มุ่งสู่การสร้างสรรค์สังคมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน รวมทั้งเป็นสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์ระหว่างท้องถิ่นกับสถานทูตฯและการผลักดันการพบปะสังสรรค์ระดับประชาชนระหว่างไทยกับเวียดนาม
สถานกงสุลใหญ่ไทยประจำนครโฮจิมินห์ได้ร่วมกับสภากาชาดเวียดนามและหอการค้าและอุตสาหกรรมไทยในเวียดนามจัดกิจกรรมจิตอาสา "เราทำดี ด้วยหัวใจ" บริจาคโลหิต ในกรอบของงาน ได้มีการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น การปั่นจักรยานรณรงค์การบริจาคโลหิต กิจกรรมการบริจาคโลหิต การบริจาคเงินช่วยเหลือและการมอบเงินช่วยเหลือและของขวัญให้แก่ผู้ป่วยธาลัสซีเมีย.