ลิ้นจี่งวดแรกของเวียดนามได้ส่งออกไปยังเยอรมนีผ่านแพลตฟอร์มอี – คอมเมิร์ซ Voso (phunuonline.com.vn)

ความได้เปรียบของการค้าอิเล็กทรอนิกส์ข้ามชาติที่มีการเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างคนในท้องถิ่นกับผู้บริโภคได้ช่วยเพิ่มความหลายหลายของสินค้าและ เมื่อเร็วๆนี้ ลิ้นจี่บั๊กยางงวดแรกรวม 3 ตันของเวียดนามได้รับการส่งออกไปยังเยอรมนีผ่านแพลตฟอร์มอี – คอมเมิร์ซ Voso ซึ่งเป็นโครงการร่วมมือระหว่างกรมการค้าอิเล็กทรอนิกส์และเศรษฐกิจดิจิทัลสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์เวียดนามกับแพลตฟอร์มอี – คอมเมิร์ซและเครือบริษัทไปรษณีย์หรือเวียดเทลโพสต์ เพื่อช่วยเหลือสถานประกอบการส่งออกของเวียดนามพัฒนาและประยุกต์ใช้การค้าอิเล็กทรอนิกส์ข้ามชาติ การประชาสัมพันธ์การค้าอิเล็กทรอนิกส์ผ่านช่องทางมัลติมีเดียได้ช่วยให้ลูกค้าทั้งภายในและต่างประเทศ รวมถึงตลาดอียูหันมาสนใจลิ้นจี่บั๊กยางมากขึ้น นายเหงียนห่งเยียน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์เวียดนามแสดงความคิดเห็นว่า นี่ถือเป็นก้าวกระโดดของหน่วยงานการค้าอิเล็กทรอนิกส์เวียดนามในการนำผลิตภัณฑ์การเกษตรที่มีคุณภาพสูงเจาะตลาดต่างประเทศที่มีเงื่อนไขเข้มงวด อย่าง ตลาดยุโรป "การที่จังหวัดบั๊กยางและท้องถิ่นที่มีผลิตภัณฑ์การเกษตรเฉพาะถิ่นเป็นฝ่ายรุกในการประสานงานและประยุกต์ใช้การประกอบธุรกิจที่ใช้ระบบเทคโนโลยีใหม่คือแนวทางที่ถูกต้อง เป็นวิธีการเข้าถึงและแก้ไขปัญหาอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ เหมาะสมและมีประสิทธิภาพในสภาวะการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หวังว่า จากความพยายามของพวกเรา ลิ้นจี่บั๊กยางจะถึงมือผู้บริโภคทั่วโลกผ่านช่องทางการค้าอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมทั้งจะมีส่วนร่วมต่อการปรับปรุงและพัฒนาความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจและการค้ากับประเทศและดินแดนต่างๆ"

คาดว่าในปี 2022 รายได้จากการค้าอิเล็กทรอนิกส์ข้ามชาติของ 16 ประเทศที่ใหญ่ที่สุดของอียูจะบรรลุ 2 แสน 2 หมื่นยูโร เพิ่มขึ้น 2 เท่าเมื่อเทียบกับรายได้ในปี 2019 ส่วนสถานประกอบการเวียดนามต้องตระหนักว่า การค้าอิเล็กทรอนิกส์ข้ามชาติคือโอกาสที่สดใสในตลาดยุโรป ถ้าหากมีการเข้าถึงที่มีประสิทธิภาพและมียุทธศาสตร์ในระยะยาวตามข้อกำหนดของอียู ก็มีความเป็นไปได้สูงที่สถานประกอบการเวียดนามจะประสบความสำเร็จในตลาดอียูผ่านช่องทางอี – คอมเมิร์ซ โดยเฉพาะการที่สินค้าเวียดนามที่ซื้อผ่านช่องทางอี-คอมเมิร์ซที่มีมูลค่าต่ำกว่า 150 ยูโรจะไม่ถูกเรียกเก็บภาษีแต่อย่างไรก็ตาม ผู้จำหน่ายจะต้องมีความรับผิดชอบต่อผู้บริโภคที่สั่งซื้อสินค้าไปแล้วตามข้อกำหนดการปกป้องผู้บริโภคอียู ตัวแทนกรมฝ่ายตลาดยุโรป – ทวีปอเมริกาสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์เวียดนามเผยว่า เพื่อพัฒนาการค้าออนไลน์หรือระบบอี – คอมเมิร์ซเพื่อช่วยให้สินค้าสามารถถึงมือของผู้บริโภคอียู จำเป็นต้องจดทะเบียนการประกอบธุรกิจในประเทศที่เป็นสมาชิกของอียูและควรลงทะเบียนการค้าขายบนเว็บไซต์ IOSS ของแต่ละประเทศสมาชิกอียู นาย เหงียนหายมิง อุปนายกสมาคมสถานประกอบการยุโรปประจำเวียดนามกล่าวว่า การค้าอิเล็กทรอนิกส์ข้ามชาติได้เปิดโอกาสให้แก่การส่งออกสินค้าเกษตรของเวียดนาม โดยเฉพาะสินค้าที่เป็นจุดแข็งในขณะที่ข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม-อียูหรืออีวีเอฟทีเอมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ

“หวังว่า สำหรับสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม ท้องถิ่นต่างๆจะมีโครงการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมเพื่อประชาสัมพันธ์และสนับสนุนสถานประกอบการเหล่านี้ให้มีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับผลประโยชน์ของข้อตกลงอีวีเอฟทีเอ ขั้นตอนการขอลดภาษี โดยเฉพาะมาตรฐานคุณภาพที่เข้มงวดของยุโรป เพื่อสามารถทำการส่งออกสินค้าไปยังตลาดยุโรปควบคู่กับการยกระดับมาตรฐานเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่ทั้งสถานประกอบการและผู้บริโภคเวียดนาม”

เพื่อผลักดันการส่งออกผ่านช่องทางอี-คอมเมิร์ซ กระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์เวียดนามได้มอบหมายหน้าที่ให้กรมการค้าอิเล็กทรอนิกส์และเศรษฐกิจดิจิทัลเป็นประธานในการประสานงานกับแพลตฟอร์มอี – คอมเมิร์ซ Voso กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบท กระทรวงโทรคมนาคมและการสื่อสารสนับสนุนการเสร็จสิ้นขั้นตอนระเบียบในการส่งออก การกักกันและการตรวจคุณภาพสินค้า เพื่อตอบสนองความต้องการที่เข้มงวดของประเทศนำเข้า ปัจจุบันนี้ ทางกรมฯ กำลังสนับสนุนการจัดทำระบบอี-คอมเมิร์ซเป็นภาษาเวียดนามและภาษาอังกฤษเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทชาวเวียดนามที่อาศัยในยุโรปและผู้บริโภคยุโรปที่มีความต้องการสินค้าเกษตรของเวียดนาม ซึ่งระบบอี – คอมเมิร์ซนี้กำลังได้รับการอัพเดทข้อมูลและปรับปรุงให้มีสมบูรณ์อย่างต่อเนื่องเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ รวมทั้งการอัพเดทการขนส่งสินค้า การตรวจสอบย้อนกลับแหล่งที่มาของสินค้าและข้อมูลของผู้จำหน่าย.