การดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศปี 2013 เ้น้นด้านปริมาณและคุณภาพ

(VOVworld) – ถึงแม้ต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย แต่สถานการณ์การดึงดูดเงินลงทุน FDI ของเวียดนามในปี 2013 ยังคงบรรลุผลงานที่น่ายินดีโดยสิ่งที่น่าสนใจคือได้มีการเปลี่ยนแปลงด้านโครงสร้างโครงการโดยเน้นเลือกโครงการ FDI ที่มีคุณภาพสูงและสอดคล้องกับกระบวนการปรับปรุงโครงสร้างและพัฒนาเศรษฐกิจในเวียดนาม

(VOVworld) – ถึงแม้ต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย แต่สถานการณ์การดึงดูดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือ FDI ของเวียดนามในปี 2013 ยังคงบรรลุผลงานที่น่ายินดีโดยสิ่งที่น่าสนใจคือได้มีการเปลี่ยนแปลงด้านโครงสร้างโครงการโดยเน้นเลือกโครงการ FDI ที่มีคุณภาพสูงและสอดคล้องกับกระบวนการปรับปรุงโครงสร้างและพัฒนาเศรษฐกิจในเวียดนาม

การดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศปี 2013 เ้น้นด้านปริมาณและคุณภาพ - ảnh 1
ถึงแม้ต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย แต่สถานการณ์การดึงดูดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือ FDI ของเวียดนามในปี 2013 ยังคงบรรลุผลงานที่น่ายินดี

ถึงแม้ต้องฟันฝ่าความท้าทายต่างๆ โดยเฉพาะผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจโลก แต่สถานการณ์การดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศของเวียดนามในปี 2013 ยังคงบรรลุผลงานที่น่ายินดีทั้งด้านปริมาณและคุณภาพที่สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ โดยเฉพาะความสามารถในการเบิกจ่ายเงินของโครงการต่างๆได้รับการปรับปรุงอย่างเห็นได้ชัด จนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน การดึงดูดเงินลงทุน FDI ในทั่วประเทศได้บรรลุ 2 หมื่น 8  ร้อยล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่า ในปี 2013 จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.5 เมื่อเทียบกับปี 2012 ซึ่งในนั้นการเบิกจ่ายเงินได้บรรลุ 1 หมื่น 5 ร้อยล้านเหรียญสหรัฐ นักลงทุนต่างประเทศได้ลงทุนใน 18 ด้านโดยเน้นอุตสาหกรรม เทคโนโลยีขั้นสูง เทคโนโลยีการแปรรูปและการผลิตเครื่องจักรกลโดยมี 557 โครงการลงทุนจดทะเบียนใหม่ โดยเฉพาะโครงการลงทุน FDI ในปีนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดโดยมีหลายโครงการที่ลงทุนในด้านเทคโนโลยีที่จะสร้างมูลค่าสูง ส่วนโครงการเทคโนโลยีที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ลดลงซึ่งเพื่อบรรลุผลงานนี้ เวียดนามได้เป็นฝ่ายรุกและอำนวยความสะดวกในการดึงดูดโครงการใหญ่ๆมากขึ้น รวมทั้งให้ความสำคัญต่อการเบิกจ่ายเงินให้แก่โครงการต่างๆ นาย โด่เญิดหว่าง อธิบดีกรมการลงทุนต่างประเทศสังกัดกระทรวงวางแผนและการลงทุนเวียดนามได้เผยว่าในจำนวนเงินทุนจดทะเบียน พวกเราเห็นว่ามี2แนวโน้ม 1 คือเน้นโครงการที่มีมูลค่าสูง 2คือโครงการขนาดกลางและขนาดย่อมซึ่งถือเป็นความพยายามส่วนหนึ่งในการชี้นำของรัฐบาลและการประสานงานของกระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆต่อแต่ละโครงการเพื่อสามารถออกใบอนุญาตลงทุนและได้รับการปฏิบัติโดยเร็ว
ปัจจุบัน การลงทุนของญี่ปุ่นคือแหล่งเงินทุนสำคัญต่อเศรษฐกิจเวียดนาม ญี่ปุ่นยังคงเป็นประเทศนำหน้าเกี่ยวกับการลงทุนในเวียดนามโดยมียอดเงินลงทุนจดทะเบียนใหม่และเพิ่มเติมรวม 5.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 27 ของยอดเงินลงทุนจดทะเบียนในเวียดนาม เมื่อวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา โครงการโรงกลั่นปิโตรเคมีงีเซินที่มียอดเงินลงทุนกว่า 9 พันล้านเหรียญสหรัฐซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนระหว่างกลุ่มบริษัทปิโตเลียมแห่งชาติเวียดนามกับบริษัทปิโตรเลียมระหว่างประเทศคูเวต บริษัท Idemitsu Kosan และบริษัทเคมีภัณฑ์Mitsui ของญี่ปุ่นได้กลายเป็นโครงการ FDI ที่มีเงินลงทุนมากที่สุดในเวียดนาม ควบคู่กันนั้น โครงการไฟฟ้าพลังความร้อนงีเซิน2 ที่มียอดเงินลงทุน 2.3 พันล้านเหรียญสหรัฐในระยะแรกก็ได้จดทะเบียนเพิ่มขึ้นอีก 2.9 พันล้านเหรียญสหรัฐทำให้จังหวัดแทงฮว้ากลายเป็นท้องถิ่นนำหน้าของประเทศเกี่ยวกับการดึงดูดเงินทุน FDI โครงการสำคัญอีกหนึ่งแห่งก็คือ โรงงานผลิตโทรศัพท์มือถือและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ Samsung ในจังหวัดบั๊กนิงได้เพิ่มเงินลงทุนอีก 1 พันล้านเหรียญสหรัฐซึ่งทำให้ยอดเงินลงทุนของโครงการนี้เพิ่มขึ้นเป็น 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ กลายเป็นโรงงาน Samsung ที่ใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นโครงการที่มีการเบิกจ่ายเงิน FDI ที่เร็วที่สุดในเวียดนาม การเปลี่ยนแปลงที่น่ายินดีของการปฏิบัติโครงการ FDI ในปีนี้ได้มีส่วนร่วมผลักดันกระบวนการฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยเร็วและปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจในเวียดนาม

การดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศปี 2013 เ้น้นด้านปริมาณและคุณภาพ - ảnh 2
โรงงานผลิตโทรศัพท์มือถือและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ Samsung

ในสภาวะการณ์ปัจจุบัน เวียดนามต้องพยายามอีกมากเพื่อสร้างบรรยากาศการลงทุนที่น่าสนใจให้มากขึ้น โดยเฉพาะการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการดึงดูด FDI กับประเทศต่างๆในภูมิภาค จากประสบการณ์ในการเบิกจ่ายเงินของโครงการ SamSung กระทรวงวางแผนและการลงทุนได้เสนอว่า ควรส่งเสริมการปฏิบัตินโยบายให้สิทธิพิเศษสำหรับนักลงทุนรายใหญ่อย่างพร้อมเพรียง สร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่กระบวนการเบิกจ่ายเงินของโครงการต่างๆตามกำหนด ในเวลาที่จะถึง จะไม่เน้นจำนวนโครงการลงทุนหากเน้นยกระดับคุณภาพแหล่งเงินทุน FDI ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อโครงการที่มีส่วนร่วมช่วยให้เวียดนามปรับปรุงโครงสร้างสัดส่วนผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคมเวียดนาม นาย บุ่ยกวางวิง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวางแผนและการลงทุนได้ชี้ชัดว่าพวกเราจะยืนหยัดไม่รับพิจารณาอนุญาตโครงการที่ใช้เทคโนโลยีล้าสมัยใช้วัตถุดิบจำนวนมากและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พยายามลดจำนวนโครงการที่ใช้เทคโนโลยีล้าสมัยในกรุงฮานอย นครโฮจิมินห์และจังหวัดด่งนายเพื่อเน้นดึงดูดโครงการที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ส่วนที่เขตทุรกันดารและเขตที่อยู่ห่างไกลความเจริญสามารถอนุญาตให้โครงการที่ใช้เทคโนโลยีปานกลางเข้าไปลงทุนได้ แต่ต้องสอดคล้องกับท้องถิ่น ปัจจุบัน พวกเรากำลังปฏิบัติตามแนวทางนี้
ตามแนวทางนี้ กระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆกำลังตรวจสอบและเพิ่มเติมนโยบายให้สิทธิพิเศษต่อโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานและสังคมขนาดใหญ่และสามารถต่อยอดทางเศรษฐกิจได้ ในการปฏิบัติตามการชี้นำของนายกรัฐมนตรี กระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆกำลังประสานงานเพื่อปฏิบัติเป้าหมายดึงดูดเงินลงทุน FDI อย่างเป็นรูปธรรมเพื่อช่วยให้เวียดนามนับวันกลายเป็นจุดหมายที่น่าสนใจของนักลงทุนต่างชาติ ให้มากยิ่งขึ้น./.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด