ตลาดภายในประเทศคือพื้นฐานช่วยให้สถานประกอบการฟื้นฟูและพัฒนา
Ba Toan - Vinh Phong -  
(VOVWORLD) -การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกเท่านั้น หากยังทำให้ห่วงโซ่อุปทานและการขนส่งสินค้าประสบภาวะชะงักงันอีกด้วย ในสภาวการณ์ดังกล่าว ตลาดภายในประเทศที่มีประชากรเกือบ 100 ล้านคนถือเป็นพื้นฐานช่วยให้สถานประกอบการฟันฝ่าอุปสรรคและขยายตัว
นาง เจิ่นถิเฟืองลาน รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานอุตสาหกรรมและพาณิชย์กรุงฮานอย |
การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ทำให้ประชาชนใช้เงินอย่างระมัดระวัง และลดการใช้จ่าย โดยใน 9 เดือนที่ผ่านมา รายได้ของภาคการขายปลีกและการบริการได้ลดลงกว่าร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โควิด -19 ได้ส่งผลกระทบต่อเกือบทุกด้านของชีวิต ทำให้สถานประกอบการต้องเปลี่ยนแปลงใหม่ มีความคิดสร้างสรรค์และปรับตัวอย่างรวดเร็วเข้ากับแนวโน้มและการใช่จ่ายรูปแบบใหม่ นาย หวูวิงห์ฟู้ ผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าแสดงความคิดเห็นว่า เพื่อกระตุ้นตลาดภายในประเทศ จำเป็นต้องวางแผนพัฒนาการผลิตและระบบจำหน่ายสินค้า ผลักดันการเชื่อมโยงระหว่างการอุปโภคกับการบริโภค สร้างความเชื่อมโยงระหว่างสถานประกอบการและท้องถิ่นเพื่อสนับสนุนการจำหน่ายสินค้า ที่กรุงฮานอย ทางการปกครองจะผลักดันกิจกรรมกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ ขยายตลาดภายในประเทศเพื่อผลักดันการผลิตประกอบธุรกิจและฟื้นฟูการขยายตัวของเศรษฐกิจในยุคชีวิตวิถีใหม่ นาง เจิ่นถิเฟืองลาน รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานอุตสาหกรรมและพาณิชย์กรุงฮานอยกล่าวว่า “พวกเรากำลังเตรียมแผนการจำหน่ายสินค้าในช่วงตรุษเต๊ตทั่วกรุงฮานอยให้สอดคล้องกับระดับการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 เน้นผลักดันโครงการโปรโมชั่นและส่งเสริมการค้าเพื่อเพิ่มรายรับ ประสานงานกับกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์เพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 อย่างใกล้ชิดและมาตรการรับมือของประเทศต่างๆเพื่อมีมาตรการที่เหมาะสม หาตลาดใหม่ให้แก่การส่งออกและผลักดันการค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่อำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน”
ส่วนนาง เหงียนถิมิงเหวี่ยน รองอธิบดีกรมการค้าอิเล็กทรอนิกส์และเศรษฐกิจดิจิทัลสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์แสดงความคิดเห็นว่า การผลักดันการบริโภคภายในประเทศมีความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสนับสนุนให้สถานประกอบการและธุรกิจครัวเรือนเข้าร่วมแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ “การจำหน่ายสินค้าในรูปแบบใหม่ผสมกับรูปแบบเก่าได้ประสบผลที่น่ายินดี นี่คือแนวโน้มในยุคชีวิตวิถีใหม่ ควบคู่กันนั้นก็ต้องผลักดันการบริโภคสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์เฉพาะถิ่นผ่านอี– คอมเมิร์ซ สองคือ สถานประกอบการต้องจัดทำยุทธศาสตร์และประยุกต์ใช้อี– คอมเมิร์ซ ยุทธศาสตร์การปรับสู่ยุคดิจิทัลและยุทธศาสตร์ขนส่งสินค้า สามคือ จำเป็นต้องเข้าร่วมโครงการต่างๆเพื่อสามารถพัฒนาในระยะยาวและใช้โอกาสจากความได้เปรียบด้านอี– คอมเมิร์ซ”
นาย โด๋ทั้งหาย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ |
ส่วนนาย โด๋ทั้งหาย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ได้เผยว่า ทางกระทรวงฯจะเฝ้าติดตามสถานการณ์อุปโภคบริโภคและราคาของสินค้าจำเป็นเพื่อมีมาตรการแก้ไขอย่างทันท่วงที “คาดว่า ในปี 2021 นี้ มูลค่าการขายปลีกและรายรับของภาคบริการจะเพิ่มขึ้นตั้งแต่ร้อยละ 3-4 เมื่อเทียบกับปี 2020 ตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงปลายปี หน่วยงานอุตสาหกรรมและพาณิชย์จะเน้นแก้ไขอุปสรรคให้แก่การผลิตและประกอบธุรกิจ โดยเฉพาะสถานประกอบการผลิตรายใหญ่เพื่อฟื้นฟูการผลิตโดยเร็วที่สุด ธำรงห่วงโซ่อุปทาน โดยเฉพาะใช้โอกาสที่ใบสั่งซื้อมักเพิ่มสูงขึ้นในช่วงปลายปีเพื่อทดแทนการผลิตที่หยุดไปในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 สองคือ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทั้งการอุปโภคบริโภคและราคาของสินค้าจำเป็นเพื่อมีมาตรการแก้ไขอย่างทันท่วงที ค้ำประกันการจำหน่ายสินค้าให้เหมาะสมระหว่างท้องถิ่นต่างๆ โดยเฉพาะรักษาความมีเสถียรภาพของการอุปโภคบริโภค ราคาและการขนส่งสินค้าทั่วประเทศ”
ในสภาวการณ์ที่การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ยังคงซับซ้อนเป็นอย่างมาก ควบคู่กับการเพิ่มคุณภาพของสินค้า สถานประกอบการได้จัดทำยุทธศาสตร์สำคัญเพื่อสร้างสรรค์เครื่องหมายการค้าเพื่อรักษาตลาด ซึ่งนี่ถือเป็นโอกาสให้สินค้าเวียดนามสามารถยืนยันสถานะและได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคภายในประเทศ จากการมีประชากรเกือบ 100 ล้านคน นี่เป็นช่วงเวลาที่เวียดนามต้องผลักดันการรณรงค์ “ชาวเวียดนามให้ความสนใจใช้สินค้าเวียดนาม” เพื่อสร้างความเชื่อมโยงระหว่างสถานประกอบการกับท้องถิ่นต่างๆ สนับสนุนการจำหน่ายสินค้าในตลาดภายในประเทศมากขึ้น และใช้โอกาสของชีวิตวิถีใหม่เพื่อช่วยให้สถานประกอบการฟื้นฟูและพัฒนา./.
Ba Toan - Vinh Phong