โบกธงเคลื่อนทัพไปยังสมรภูมิภาคใต้
(VOVWORLD) - การปฏิวัติเดือนสิงหาคมปี1945 และการสถาปนาประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม ซึ่งปัจจุบันคือประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามเมื่อวันที่ 2 กันยายนปี1945 ได้เป็นความทรงจำที่ไม่สามารถลืมเลือนได้สำหรับประชาชนเวียดนาม โดยเหตุการณ์นี้ได้สร้างแรงบันดาลใจให้นักดนตรีหลายคนแต่งเพลงที่ไพเราะ โดยเฉพาะผลงานเพลงเมื่อ 79 ปีก่อนที่เต็มกลิ่นอายแห่งประวัติศาสตร์ ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างความซาบซึ้งใจให้กับแฟนเพลงที่เคยเข้าร่วมภารกิจการต่อสู้เพื่อปลดปล่อยประชาชาติเท่านั้น หากยังช่วยให้คนรุ่นใหม่มีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับบรรยากาศความฮึกเหิมของการปฏิวัติในเดือนสิงหาคมอีกด้วย
1 คืนก่อนจัดตั้งหน่วยทหารปลดปล่อยเวียดนามรณรงค์การต่อสู้กู้ชาติซึ่งเป็นหน่วยทหารหลักหน่วยแรกและเป็นต้นกำเนิดของกองทัพประชาชนเวียดนามเมื่อวันที่ 22 ธันวาคมปี 1944 มีนักคอมมิวนิสต์คนหนึ่งได้เขียนเพลง “Phất cờ Nam tiến” หรือที่แปลว่า “โบกธงเคลื่อนทัพไปยังสมรภูมิภาคใต้” ซึ่งเป็นเพลงประจำของกองทัพประชาชนเวียดนามเพลงแรก โดยนักคอมมิวนิสต์คนนั้นคือท่าน หว่างวันท้าย 1 ในสมาชิกหน่วยทหารปลดปล่อยเวียดนามรณรงค์การต่อสู้กู้ชาติ 34 นาย และเป็นเสนาธิการใหญ่กองทัพประชาชนเวียดนามคนแรก ซึ่งเพลงนี้ได้รับการเผยแพร่ในช่วงการปฏิวัติเดือนสิงหาคมและขบวนการเคลื่อนทัพไปยังสมรภูมิภาคใต้ในช่วงปี 1945-1946 ส่วนในช่วงปี 1960-1975 เพลงนี้ถูกใช้เป็นเพลงประกอบรายการกองทัพประชาชนของสถานีวิทยุเวียดนาม โดยเนื้อเพลงได้สื่อถึงความมุ่งมั่นและการยึดมั่นในแนวทางการปฏิวัติของทหารเวียดนามที่ให้กำลังใจและส่งเสริมให้ประชาชนทั่วประเทศลุกขึ้นสู้เพื่อช่วงชิงเอกราชและเสรีภาพให้แก่ประชาชาติ ขอเชิญท่านฟังเพลง “Phất cờ Nam tiến” จากการขับร้องของวง Lửa Việt
เมื่อปี 1944 ขบวนการปฏิวัติของประชาชนภายใต้การนำของแนวร่วมเหวียดมินห์ได้พัฒนาอย่างเข้มแข็งในทั่วประเทศ ซึ่งจุดสูงสุดคือการลุกขึ้นสู้ครั้งใหญ่เดือนสิงหาคมปี 1945 โดยนักดนตรี วันกาว ได้รับคำสั่งให้แต่งเพลงที่ให้กำลังใจและสร้างความฮักเหิมให้แก่ประชาชนทั่วประเทศในการลุกขึ้นสู้เพื่อทวงคืนอำนาจการปกครองในท้องถิ่น ซึ่งท่ามกลางบรรยากาศความฮึกเหิมในตอนนั้น นักดนตรี วันกาว ได้แต่งเพลง “Tiến quân ca” หรือที่แปลว่า “เพลงแห่งการเคลื่อนทัพ”และเพลง "Chiến sĩ Việt Nam" หรือที่แปลว่า “ทหารเวียดนาม” โดยเพลง “Tiến quân ca” ได้รับเลือกเป็นเพลงชาติประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามในการประชุมใหญ่ผู้แทนทั่วประเทศ ณ ตำบลเตินจ่าว อำเภอเซินเยือง จังหวัดเตวียนกวาง ส่วนสำหรับเพลง "Chiến sĩ Việt Nam" เปรียบเสมือนคำเรียกร้องปลูกเร้าจิตใจทหารทุกคนในการต่อสู้อย่างกล้าหาญเด็ดเดี่ยว
กวี เหงวียนดิ่งที ได้เข้าร่วมขบวนการต่อสู้เพื่อเรียกร้องการอยู่ดีกินดีและเสรีภาพเมื่อปี 1945 ซึ่งตอนนั้น เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยกฎหมาย อายุ 21 ปี โดยได้เข้าร่วมกิจกรรมลับของสมาคมวัฒนธรรมกู้ชาติ โดยการเห็นผู้คนนับหมื่นอดอยากเมื่อปี 1945 ทำให้เขารู้สึกเศร้าใจเป็นอย่างมาก อันเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กวี เหงวียนดิ่งทีเขียนเพลง "Diệt phát xít" หรือที่แปลว่า “ขจัดลัทธิฟาสซิสต์” ซึ่งหลังเขียนเสร็จ เขาได้ส่งเพลงนี้ให้แก่เพื่อนคนหนึ่งคือนาย ฝ่ามดึ๊ก แล้วเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมใหญ่ผู้แทนทั่วประเทศ ณ ตำบลเตินจ่าว เพื่อก่อตั้งคณะกรรมการลุกขึ้นสู้ทั่วประเทศ ซึ่งกวี เหงวียนดิ่งที ได้รู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมากหลังทราบข่าวในพิธีชุมนุมเมื่อวันที่ 17 สิงหาคมปี 1945 ณ บริเวณโรงละครใหญ่ฮานอย มีเยาวชนคนหนึ่งได้ร้องเพลง “Diệt phát xít” ต่อหน้าสาธารณชนหลายหมื่นคน โดยเพลงนี้ถูกใช้เป็นเพลงประจำของสถานีวิทยุเวียดนามตั้งแต่ได้รับการก่อตั้งเมื่อเดือนกันยายนปี 1945 จนถึงปัจจุบัน
สำหรับเพลงปิดท้ายรายการเพลงสัปดาห์นี้คือเพลง “Đoàn vệ quốc quân”หรือที่แปลว่า “หน่วยทหารปกป้องประเทศ” ของนักดนตรี ฟานหวิ่งเดี๊ยว โดยตอนแรกเพลงนี้ถูกตั้งชื่อว่า "Đoàn Giải phóng quân" หรือที่แปลว่า “หน่วยทหารปลดปล่อย” ซึ่งเป็นหนึ่งในเพลงที่ดังที่สุดของนักดนตรี ฟานหวิ่งเดี๊ยว โดยเขาได้แต่งเพลงนี้เมื่อปี 1945 หลังจากเวียดนามได้มีเอกราชภายหลังเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสในรอบเกือบ 1 ศตวรรษท่ามกลางบรรยากาศความฮึกเหิมและความมุ่งมั่นกอบกู้เอกราชของประชาชาติ ซึ่งเนื้อเพลงเปรียบเสมือนคำสาบานของเยาวชนว่า จะมุ่งมั่นเข้าร่วมและยอมเสียสละทุกอย่างเพื่อภารกิจการต่อสู้เพื่อปกป้องประเทศ