รองศาสตราจารย์ Shang Feng จากมหาวิทยาลัยเศรษฐกิจการค้าต่างประเทศในกรุงปักกิ่ง

ในการพบปะและการเจรจากับผู้นำจีน ประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะ ได้เสนอให้ผลักดันการพบปะสังสรรค์ระหว่างรัฐสภาของทั้งสองประเทศ การหารือและแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับการดำเนินงานของรัฐสภาและสำนักงานต่างๆของรัฐสภา ผลักดันบทบาทการตรวจสอบของสำนักงานนิติบัญญัติของทั้งสองประเทศในการเร่งรัดให้กระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆปฏิบัติเอกสารและข้อตกลงที่ได้ลงนาม

ประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะ ยังเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องถึงความร่วมมือทางเศรษฐกิจ เช่น การประชุมกับกลุ่มบริษัทชั้นนำของจีน การเข้าร่วมการเสวนาเกี่ยวกับการปฏิรูปสถานประกอบการภาครัฐ และการบริหารเงินทุนของรัฐในสถานประกอบการ ฟอรั่มนโยบายกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุนและความร่วมมือทางการค้าระหว่างเวียดนามกับจีน จากมุมมองของนักวิจัย รองศาสตราจารย์ Shang Feng จากมหาวิทยาลัยเศรษฐกิจการค้าต่างประเทศในกรุงปักกิ่งได้ให้ความสนใจเป็นพิเศษต่อการเยือนของประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะ และการเคลื่อนไหวทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนต่างประเทศของสภาแห่งชาติเวียดนาม

“ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สภาแห่งชาติเวียดนามได้ปรับปรุงกลไกด้านนิติบัญญัติอย่างต่อเนื่อง เรียนรู้ประสบการณ์ระหว่างประเทศ ยกระดับทักษะความสามารถของเจ้าหน้าที่ด้านนิติบัญญัติ แก้ไขและเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่เกี่ยวข้องถึงการลงทุนต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง อำนวยความสะดวกให้แก่ชาวต่างชาติในการประกอบธุรกิจในเวียดนาม ผมเชื่อมั่นว่า ในอนาคต เวียดนามจะยืนหยัดปฏิบัติเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงใหม่ เปิดประเทศและผสมผสานเข้ากับกระแสโลก ระดับการเปิดประเทศของเวียดนามจะได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ศักยภาพความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนระหว่างจีนกับเวียดนามจะดีขึ้น”

นาง ยูซูฮุ่ย อดีตเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ของโรงพยาบาลหนานซีซาน ประเทศจีน

ส่วนนาง ยูซูฮุ่ย (Yu Shuhui) อดีตเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ของโรงพยาบาลหนานซีซาน ประเทศจีนได้เผยว่า

“ดิฉันคิดว่า การเยือนจีนของประธานสภาแห่งชาติเวียดนามถือเป็นสัญลักษณ์แห่งก้าวเดินต่อไปของสัมพันธไมตรีระหว่างจีนกับเวียดนาม ช่วยผลักดันการพบปะสังสรรค์ระหว่างประชาชนและนำมิตรภาพที่เป็นทั้งสหายและพี่น้องระหว่างสองฝ่ายพัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ เราต้องสานต่อและส่งเสริมมิตรภาพที่ผู้นำรุ่นแล้วรุ่นเล่าของทั้งสองประเทศได้ทำนุบำรุง โดยเฉพาะเพื่อให้เยาวชนของทั้งสองประเทศไม่ลืมและสานต่อความสัมพันธ์ที่ดีงามต่อไป.”