นาย บุ่ยแทงเซิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม (Photo:baoquocte.com)

ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม นาย บุ่ยแทงเซิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้ยืนยันว่า ผลสำเร็จของงานด้านการทูตเศรษฐกิจมาจากความสนใจและการชี้นำของบรรดาผู้นำพรรคและรัฐ ผู้บริหารของกระทรวงการต่างประเทศและการประสานงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวง หน่วยงาน ท้องถิ่นและสถานประกอบการต่างๆ กระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้ผลักดันการวิจัยรูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจและแนวโน้มการพัฒนาของเศรษฐกิจโลกเพื่อให้คำปรึกษาแก่พรรคและรัฐบาลในการกำหนดแนวทางและนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจเวียดนาม ซึ่งหน่วยงานการทูตมีส่วนร่วมต่อการสถาปนาความสัมพันธ์ด้านการค้ากับกว่า 224 ประเทศและดินแดน เปิดตลาดการส่งออกที่มีศัยกภาพ มีส่วนร่วมเพิ่มมูลค่าการค้าจาก 2.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 1986 ขึ้นเป็น 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2019

กระทรวงการต่างประเทศยังเน้นผลักดันการดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากหุ้นส่วนชั้นนำในโลก มีส่วนร่วมเพิ่มจำนวนเงินเอฟดีไอจาก 1.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 1986 ขึ้นเป็น 3 หมื่น 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2019 ซึ่งกิจกรรมการส่งเสริมการประชาสัมพันธ์นอกรอบการประชุมระดับสูง สัปดาห์และวันงานเวียดนามในต่างประเทศ การประชุม การเสวนา กิจกรรมการประชาสัมพันธ์ด้านการลงทุน การค้าและการท่องเที่ยวต่างๆที่จัดโดยสำนักงานตัวแทนของเวียดนามในต่างประเทศได้มีส่วนช่วยเปิดโอกาสความร่วมมือด้านเศรษฐกิจให้แก่ประเทศ จนถึงขณะนี้ เวียดนามได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับ 189 ประเทศจากจำนวนทั้งหมด 193 ประเทศสมาชิกของสหประชาชาติและสร้างกรอบความสัมพันธ์กับ 30 หุ้นส่วนยุทธศาสตร์

ในการนี้ บรรดาผู้แทนได้ประเมินว่า  สถานการณ์ในภูมิภาคและโลกมีความผันผวนอย่างซับซ้อน โดยเฉพาะ ผลกระทบจากวิกฤตโควิด -19 แนวโน้มการปรับเปลี่ยนการลงทุน ห่วงโซ่การผลิตและการจัดสรร ส่วนประเทศกำลังย่างเข้าสู่ระยะแห่งการผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลก ซึ่งสร้างทั้งโอกาสและความท้าทายใหม่  งานด้านการทูตเศรษฐกิจต้องมีการเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างเข้มแข็งเพื่อตอบสนองความต้องการของสถานการณ์ใหม่.