(VOVWORLD) -เช้าวันที่ 12 พฤศจิกายน ณ กรุงฮานอย การประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 37 ได้เปิดขึ้นอย่างเป็นทางการผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของปีประธานอาเซียน 2020
ท่าน เหงวียนฟู้จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศเวียดนามกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม (Photo: baoquocte) |
ในการกล่าวปราศรัยเปิดการประชุม ท่าน เหงวียนฟู้จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศเวียดนามได้ชี้ชัดว่า วิกฤตโควิด –19ได้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในทั่วโลก ซึ่งประเทศต่างๆต้องส่งเสริมการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือและการพัฒนา ประชาชนต้องได้รับความสนใจ ปกป้องและร่วมกันฟันฝ่าอุปสรรคนี้
ท่าน เหงวียนฟู้จ่องยังชื่นชมบทบาทการเป็นผู้เดินหน้าของอาเซียนในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาด พร้อมทั้ง ยืนยันว่า อาเซียนได้ประสบความสำเร็จในการรักษาเสถียรภาพและธำรงบทบาทและสถานะของตน ซึ่งหุ้นส่วนต่างๆให้ความสำคัญและสนับสนุนบทบาทการเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในขณะที่อาเซียนยังคงต้องเผชิญความท้าทายไม่น้อย
“ การกำหนดสถานะที่เหมาะสมให้แก่อาเซียนในโลกหลังวิกฤตโควิด -19 เป็นปัญหาใหญ่ ความประสงค์ที่จะธำรงสันติภาพ เสถียรภาพ ความสามัคคีและความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์บนพื้นฐานของกฎหมายสากลกลายเป็นคุณค่าหลักของอาเซียน ในสภาวการณ์ใหม่ ประเทศอาเซียนต้องผลักดันการประสานงานเพื่อปฏิบัติความคิดริเริ่มและแผนการฟื้นฟูผ่านการปฏิบัติและความร่วมมือใหม่อย่างจริงจังและมีประสิทธิภาพ”
ท่าน เหงวียนฟู้จ่องได้ย้ำว่า แนวทางที่เสมอต้นเสมอปลายของเวียดนามคือรักษาเอกราช การเป็นตัวของตัวเอง มีความสัมพันธ์หลายรูปแบบหลายฝ่าย เป็นเพื่อนมิตรและหุ้นส่วนที่น่าไว้วางใจและเป็นสมาชิกที่แข็งขันและมีความรับผิดชอบของประชาคมโลก เพื่อสันติภาพ ความร่วมมือและการพัฒนา ซึ่งเจตนารมณ์นี้จะเป็นเข็มทิศนำทางให้แก่นโยบายการต่างประเทศของเวียดนาม
นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุก ประธานอาเซียนปี 2020 (Photo: baoquocte) |
ในฐานะประธานอาเซียนปี 2020 บนเจตนารมณ์ “ความเป็นหนึ่งเดียวและพร้อมปรับตัว” เวียดนามให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมความสามัคคี การสนับสนุนและความช่วยเหลืออันล้ำค่าจากประเทศสมาชิก หุ้นส่วนและเพื่อนมิตรของอาเซียนเพื่อให้ประชาคมอาเซียนฟันฝ่าความท้าทาย
ในการกล่าวปราศรัยในพิธีเปิด นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุก ประธานอาเซียนปี 2020 ได้ยืนยันว่า เพื่อรับมือผลกระทบของวิกฤตโควิด -19 รัฐบาลประเทศอาเซียนได้ส่งเสริมความสามัคคี มีปฏิบัติการที่เข้มแข็งทั้งในระดับประเทศและภูมิภาค ซึ่งมีส่วนช่วยธำรงความร่วมมือของอาเซียน
“บนเจตนารมณ์แห่งการไม่ย่อท้อต่อความลำบากและความท้าทาย วิกฤตโควิด -19 ไม่สามารถขัดขวางการสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียนได้ ความร่วมมือในทั้ง 3 เสาหลักยังคงได้รับการปฏิบัติตามแผนการที่ได้วางไว้ผ่านผลการประเมินกึ่งวาระการปฏิบัติแผนการโดยรวมเกี่ยวกับการปฏิบัติวิสัยทัศน์อาเซียนปี 2025 จากการปฏิบัติ 2 เป้าหมายพร้อมกันคือ ป้องกันการแพร่ระบาดควบคู่กับการผลักดันการฟื้นฟู พวกเราจะอนุมัติร่างแผนการฟื้นฟูอาเซียนและแผนการปฏิบัติใน 3 เสาหลัก ซึ่งจะสร้างกรอบการเดินทางที่ปลอดภัยให้แก่นักธุรกิจและนักลงทุนในสภาวการณ์ที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 โดยก่อนอื่น พวกเราอาจพิจารณาการเปิดช่องทางผ่านแดนเฉพาะให้แก่พลเมืองอาเซียนในจุดผ่านแดนต่างๆ”
นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุกยังชื่นชมการที่อาเซียนส่งเสริมบทบาทการเป็นศูนย์กลาง ยืนหยัดจุดยืน หลักการและคำมั่นต่างๆในการสร้างสรรค์เขตทะเลตะวันออก ยกย่องความมหายของ UNCLOS 1982 ซึ่งเป็นกรอบทางนิตินัยสำหรับทุกกิจกรรมในทะเล พร้อมทั้ง เสนอให้อาเซียนต้องระดมแหล่งพลังต่างๆเพื่อแก้ปัญหาโควิด -19 ผลักดันการช่วยเหลือสถานประกอบการในการฟื้นฟูการผลิตและการประกอบธุรกิจ สร้างงานทำให้แก่ประชาชน .