การปะทะระหว่างกลุ่มฮามาสกับอิสราเอลยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
(VOVWORLD) - เมื่อคืนวันที่ 13 ตุลาคม เจ้าหน้าที่สาธารณสุขปาเลสไตน์ได้เผยว่า ได้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเพิ่มขึ้นอีกเกือบ 2 พันคนจากการโจมตีทางอากาศและการยิงปืนใหญ่ของกองทัพอิสราเอลใส่ฉนวนกาซา รวมถึงกลุ่มผู้อพยพจากทางทิศเหนือของฉนวนกาซาไปยังเขตทางทิศใต้ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 70 คนและได้รับบาดเจ็บกว่า 200 คน โดยมีเด็กและสตรีเป็นจำนวนมาก
รถถังของอิสราเอลใกล้เขตชายแดนของอิสราเอลที่ติดกับฉนวนกาซา (Reuters) |
ตั้งแต่เกิดการโจมตีทางอากาศของกองทัพอิสราเอลใส่ฉนวนกาซาเมื่อเช้าวันที่ 7 ตุลาคม จนถึงค่ำวันที่ 13 ตุลาคม ได้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บถึงเกือบ 1 หมื่นคน
ในขณะเดียวกัน ได้เกิดการปะทะระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงชาวปาเลสไตน์กับกองทัพอิสราเอลในเขตเวสต์แบงก์ ซึ่งทำให้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตอย่างน้อย 14 คนและได้รับบาดเจ็บประมาณ 300 คน
ในบ่ายวันเดียวกัน กองทัพอิสราเอลได้ยิงปืนใหญ่ใส่จุดตรวจความมั่นคงของกองทัพเลบานอนในเขต Al Dhahira ทางทิศใต้ของประเทศนี้ ซึ่งทำให้มีผู้สื่อข่าวของสำนักข่าว Reuters 1 คนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บอีก 4 คน ซึ่งสื่อต่างๆในภูมิภาคและโลกได้ประณามเหตุการณ์ดังกล่าว
ส่วนในการพบปะระหว่างนาย แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกับนาย มาห์มุด อับบาส ประธานาธิบดีปาเลสไตน์เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ณ กรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน นาย แอนโทนี บลิงเคน ได้ประณามเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมทั้งย้ำว่า กลุ่มฮามาสไม่ใช่เป็นตัวแทนแห่งสิทธิเสรีภาพ ความยุติธรรมและสิทธิการตัดสินใจด้วยตัวเองของชาวปาเลสไตน์และยืนยันอีกครั้งถึงคำมั่นของสหรัฐในการร่วมมือกับปาเลสไตน์เพื่อค้ำประกันความปลอดภัยให้แก่ประชาชน ส่วนนาย รีเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน ประธานาธิบดีตุรกีได้เรียกร้องให้อิสราเอลสนับสนุนการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซาผ่านด่านชายแดน Rafah ของอียิปต์ พร้อมทั้งให้คำมั่นแสวงหาทางออกให้แก่วิกฤตในภูมิภาค.