การแก้ไขความตึงเครียดในทะเลตะวันออกต้องการเจตนาที่ดีจากทั้งสองฝ่าย
(VOVworld)-เวียดนามได้ยืนยันหลายครั้งเกี่ยวกับจุดยืนของเวียดนามต่อหมู่เกาะหว่างซาหรือพาราเซลและเจื่องซาหรือสเปรตลี่ ยืนหยัดคัดค้านและเรียกร้องให้จีนยุติปฏิบัติการที่ผิดกฎหมาย ให้ความเคารพกฎหมายสากล
(VOVworld)-เวียดนามได้ยืนยันหลายครั้งเกี่ยวกับจุดยืนของเวียดนามต่อหมู่เกาะหว่างซาหรือพาราเซลและเจื่องซาหรือสเปรตลี่ ยืนหยัดคัดค้านและเรียกร้องให้จีนยุติปฏิบัติการที่ผิดกฎหมาย ให้ความเคารพกฎหมายสากล ปฏิบัติตามแถลงการณ์เกี่ยวกับการปฏิบัติของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือดีโอซีอย่างเคร่งครัดและไม่มีปฏิบัติการในลักษณะนี้อีก ทั้งนี้เป็นการยืนยันของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามเลหายบิ่งในการประชุมแถลงข่าวประจำเดือนของกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม ณ กรุงฮานอย บ่ายวันที่26มิถุนายน
|
นายเลหายบิ่งได้ชี้ชัดว่าในเวลาที่ผ่านมา ในขณะที่แท่นขุดเจาะไหหยาง981พร้อมเรือและเครื่องบินคุ้มกันของจีนยังคงมีการเคลื่อนไหวอย่างผิดกฎหมายในเขตเศรษฐกิจจำเพาะและไหล่ทวีปของเวียดนาม จีนก็ได้เพิ่มการเคลื่อนไหวที่สร้างความตึงเครียดใหม่เช่นส่งแท่นขุดเจาะไหหนาน-09และเรือสำรวจธรณีฟิสิกส์719เข้าไปในเขตทะเลนอกปากอ่าวตะวันออก ขยายกิจกรรมการก่อสร้างและเปลี่ยนสภาพเดิมบนเกาะบางแห่งในหมู่เกาะเจื่องซาของเวียดนาม ระดมเรือเข้าปิดล้อมและพุ่งชนเรือของเวียดนามที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ในเขตทะเลที่อยู่ในอธิปไตยของเวียดนาม โดยเฉพาะจีนได้พิมพ์จำหน่ายแผนที่ที่มีการระบุทั้งเส้นประ9เส้นที่คลอบคลุมพื้นที่ทะเลตะวันออกเกือบทั้งหมด เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้ชี้ว่า “การพิมพ์แผนที่ดังกล่าวถือเป็นการละเมิดกฎหมายสากลอย่างรุนแรง ซึ่งเราทุกคนทราบดีว่า คำเรียกร้องเกี่ยวกับเส้นประ9เส้นของจีนนั้นถูกประเทศต่างๆทั้งในและนอกภูมิภาคประท้วงซึ่งเวียดนามยืนหยัดแสดงการคัดค้านการกระทำที่ผิดกฎหมายต่างๆของจีน”
เกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหานี้โดยเฉพาะหลังการเยือนเวียดนามของนายหยางเฉียสือสมาชิกรัฐบาลจีนโฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามยืนยันว่าเวียดนามยืดหยัดแนวทางการแก้ไขปัญหาผ่านมาตรการที่สันติ แต่ความตั้งใจและเจตนาที่ดีจะต้องมาจากทั้งสองฝ่าย หากมีอีกฝ่ายดำเนินปฏิบัติการเพียงฝ่ายเดียวก็มีแต่จะทำให้สถานการณ์ซับซ้อนยิ่งขึ้นและเวียดนามก็กำลังพิจารณาการยื่นฟ้องจีนต่อศาลโลกโดยถือเป็นหนึ่งในมาตรการที่สันติและสอดคล้องกับกฎหมายสากลในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว./.