พิธีฉลองครบรอบ๖๐ปีการลงนามข้อตกลงเจนีวา๑๙๔๕(Photo:Hanoi)

(VOVworld) – เช้าวันที่๑๘เดือนนี้ คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ รัฐสภา ประธานประเทศ รัฐบาลเวียดนามได้จัดพิธีฉลองครบรอบ๖๐ปีการลงนามข้อตกลงเจนีวาเกี่ยวกับการยุติการสู้รบในเวียดนามซึ่งตรงกับวันที่๒๐กรกฎาคม โดยมีท่านเหงวียนฟู้จ่องเลขาธิการใหญ่พรรค ท่านเจืองเติ๊นซางประธานประเทศและผู้นำพรรค รัฐ เจ้าหน้าที่ปฏิวัติอาวุโส ตัวแทนคณะทูตานุทูตและสมาชิกบสงคนที่เข้าร่วมการประชุมเจนีวา๑๙๕๔เข้าร่วม

            ในการกล่าวปราศรัยในพิธี ประธานประเทศเจืองเติ้นซางได้กล่าวว่า การลงนามข้อตกลงเจนีวาเกี่ยวกับการยุติการสู้รบในเวียดนามเป็นนิมิตรหมายทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญในการต่อสู้ที่ลำบากยากเข็ญของประชาชนเวียดนามเพื่อช่วงชิงเอกราชและเสรีภาพมาให้แก่ปิตุภูมิในศวรรษที่๒๐ ท่านเจืองเติ๊นซางยังรับทราบ ชื่นชมคุณูปการของเจ้าหน้าที่และทหารที่มีส่วนร่วมต่อการต่อสู้ทางการทูตเมื่อ๖๐ปีก่อน โดยเฉพาะ บรรดาสมาชิกของคณะผู้แทนรัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามที่ได้เข้าร่วมการต่อสู้ทางสติปัญญาเพื่อมีส่วนร่วมให้แก่ความสำเร็จของการประชุม ท่านเจืองเติ๊นซางกล่าวว่า “การลงนามข้อตกลงเป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่ที่มีความหมายสำคัญเป็นอย่างยิ่งของรัฐสาธารณรัญประชาธิปไตยเวียดนามซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลฝรั่งเศสและประเทศที่เข้าร่วมการประชุมได้ให้คำมั่นเคารพอธิปไตย เอกราช เอกภาพ บูรณภาพแห่งดินแดน และไม่แทรกแซงกิจการภายในของเวียดนาม  ข้อตกลงเจนีวาเป็นก้าวเดินที่สำคัญแสดงให้เห็นความปรารถนาอย่างแรงกล้าของเวียดนามเกี่ยวกับสันติภาพ เอกภาพ บูรณภาพแห่งดินแดน ชัยชนะของข้อตกลงเจนีวาเป็นชัยชนะของความรักชาติอย่างแรงกล้า และแนวทางปฏิวัติ ทำสงครามกู้ชาติที่ถูกต้องของประธานโฮจิมินห์ นับเป็นครั้งแรกที่การทูตปฏิวัติเวียดนามเข้าร่วมเวทีโลก ชัยชนะของข้อตกลงเจนีวาก็เป็นชัยชนะของความสามัคคีระหว่างประเทศ”

            ประธานประเทศเจืองเติ๊นซางยืนยันว่า ๖๐ปีได้ผ่านพ้นไป  ข้อตกลงเจนีวาได้ทิ้งไว้บทเรียน และประสบการณ์อันล้ำค่าให้แก่ทั้งพรรค กองทัพและประชาชนทุกหมู่เหล่าในภารกิจการสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิ

            ภารหลังเกือบ๓๐ปีที่ปฏิบัติภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศ เวียดนามได้ประสบผลสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่มีความหมายทางประวัติศาสตร์ อย่างไรก็ดี เวียดนามก็กำลังประสบอุปสรรคและความท้าทายนานัปการ โดยเฉพาะ การรุกล้ำและการพิพาททางอธิปไตยในทะเลตะวันออกซึ่งเรียกร้องให้ทั้งพรรค และประชาชนทุกหมู่เหล่าต้องมีความสามัคคี ประยุกต์ใช้บทเรียนทางประวัติศาสตร์และประสบการณ์จากการประชุมเจนีวาปี๑๙๕๔อย่างมีความคิดสร้างสรรค์ ท่านเจืองเติ๊นซางกล่าว“ในด้านการต่างประเทศ จะขยายการนำของพรรคในทุกด้าน ประสานระหว่างกิจกรรมต่างประเทศของพรรคกับการทูตของรัฐ การทูตประชาชนอย่างกลมกลืน สร้างความเป็นเอกภาพเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่างๆอย่างลุล่วงไปด้วยดี รักษาแนวทางต่างประเทศที่อิสระ เป็นตัวของตัวเอง สันติภาพ ร่วมมือเพื่อร่วมกันพัฒนา ยืนหยัดต่อสู้ต่ออิทธิพลที่มีแผนกุศโลบายละเมิดเอกราช อธิปไตย เอกภาพ บูรณภาพแห่งดินแดนของเวียดนามและยืนหยัดแนวทางแก้ไขการพิพาทด้วยสันติวิธี ปฏิบัติแนวทางเวียดนามเป็นมิตร เป็นหุ้นส่วนที่น่าไว้วางใจ และเป็นสมาชิกที่มีความรับผิดชอบของประชาคมระหว่างประเทศอย่างเสมอต้นเสมอปลาย”

ประธานเจืองเติ๊นซางยืนยันว่า  แต่ไหนแต่ไรมา เวียดนามเป็นประชาชาติที่ฝักใฝ่สันติภาพแต่สันติภาพ ต้องผนึกแน่นกับเอกราช อธิปไตย เอกภาพและบูรณาภาพแห่งดินแดน“ฉลองครบรอบ๖๐ปีการลงนามข้อตกลงเจนีวา เวียดนามยืนหยัดรักษาจุดยืนและ แนวความคิดการทูตของประธานโฮจิมินห์ที่ระบุในโทรเลขที่ส่งถึงสหประชาชาติและรัฐบาลประเทศต่างๆหลังวันที่๒กันยายนปี๑๙๔๕ดังนี้ ประชาชนเวียดนามมีความประสงค์ที่จะมีสันติภาพแต่ก็ยืนหยัดต่อสู้เพื่อพิทักษ์รักษาสิทธิอันศักดิสิทธิ์ที่สุดคือ บูรณภาพแห่งดินแดนของปิตุภูมิและเอกราชของประเทศ”

โอกาสนี้ ในนามผู้นำพรรคและรัฐ ประธานประเทศเจืองเติ๊นซางได้มอบประกาศเกียรติคุณเป็นวีรชนกองกำลังติดอาวุธให้แก่คณะผู้แทนรัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามในการประชุมเจนีวาปี๑๙๕๔เนื่องจากมีผลงานยอดเยี่ยมในสงครามต่อต้านฝรั่งเศสผู้รุกราน./.