ความสัมพันธ์ระหว่างเดนมาร์กกับเวียดนามจะพัฒนาขึ้นสู้ขั้นสูงใหม่ในเวลาข้างหน้า
(VOVWORLD) - สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 ได้ยืนยันว่า ในตลอด 50 ปีตั้งแต่การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศเมื่อปี 1971 เวียดนามและเดนมาร์กได้บรรลุผลสำเร็จมากมายในด้านต่างๆ อีกทั้งแสดงความเชื่อมั่นว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศนั้นจะมีการพัฒนาขึ้นสู้ขั้นสูงใหม่อย่างครอบคลุม รอบด้าน และเป็นรูปธรรม บนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างสองประเทศ
เอกอัครราชทูตฯ เลืองแทงหงิ เข้ายื่นสารตราตั้งของประธานประเทศ เหงวียนซวนฟุ๊ก ต่อสมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 |
นี่เป็นคำยืนยันของสมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 ในการให้การต้อนรับนาย เลืองแทงหงิ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำเดนมาร์กที่เข้ายื่นสารตราตั้งของประธานประเทศ เหงวียนซวนฟุ๊ก เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยสมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 ได้ยืนยันว่า ในตลอด 50 ปีตั้งแต่การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศเมื่อปี 1971 เวียดนามและเดนมาร์กได้บรรลุผลสำเร็จมากมายในด้านต่างๆ ที่เคยมีความร่วมมือมาก่อน เช่น การเมือง-การทูต เศรษฐกิจ-การค้า-การลงทุน การแลกเปลี่ยนระดับประชาชน ความร่วมมือทางการเกษตร การศึกษา แรงงาน รวมถึงในด้านใหม่ๆ เช่น การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พลังงานหมุนเวียน การเติบโตสีเขียว และการพัฒนาอย่างยั่งยืน อีกทั้งแสดงความเชื่อมั่นว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศนั้นจะมีการพัฒนาขึ้นสู้ขั้นสูงใหม่อย่างครอบคลุม รอบด้าน และเป็นรูปธรรม บนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างสองประเทศ ส่วนเอกอัครราชทูตฯ เลืองแทงหงิ ได้ยืนยันว่า จะพยายามอย่างสุดความสามารถ พร้อมแสดงหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากสมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 รัฐบาลและประชาชนเดนมาร์กในการส่งเสริมและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในเวลาข้างหน้า นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตฯ เลืองแทงหงิ ได้เสนอให้รัฐบาลเดนมาร์กให้ความสนใจพร้อมอำนวยความสะดวกให้แก่ชาวเวียดนามกว่า 16,000 คนที่กำลังอาศัยในเดนมาร์กในการปรับตัวเข้าสังคมและมีส่วนร่วมอย่างเป็นรูปธรรมต่อความสัมพันธ์มิตรภาพระหว่างเวียดนามกับเดนมาร์กให้มากขึ้น.