ที่ประชุมรัฐสภาครั้งที่ 4 สมัยที่ 13 ทำการตั้งและตอบกระทู้ถามต่อคณะรัฐมนตรี

(VOVworld) – เช้าวันที่ 13 พฤศจิกายน ที่ประชุมรัฐสภาครั้งที่ 4 สมัยที่ 13 ทำการตั้งและตอบกระทู้ถามต่อคณะรัฐมนตรีโดยเริ่มต้นด้วยการตั้งและตอบกระทู้ถามท่าน NguyễnVănBình ผู้ว่าการธนาคารชาติเวียดนาม

(VOVworld) – เช้าวันที่ 13 พฤศจิกายน ที่ประชุมรัฐสภาครั้งที่ 4 สมัยที่ 13 ทำการตั้งและตอบกระทู้ถามต่อคณะรัฐมนตรีโดยเริ่มต้นด้วยการตั้งและตอบกระทู้ถามท่าน NguyễnVănBình ผู้ว่าการธนาคารชาติเวียดนาม
ที่ประชุมรัฐสภาครั้งที่ 4 สมัยที่ 13 ทำการตั้งและตอบกระทู้ถามต่อคณะรัฐมนตรี - ảnh 1
ท่าน NguyễnVănBình ผู้ว่าการธนาคารชาติเวียดนาม
          สำหรับการบริหารควบคุมราคาทองคำภายในประเทศ ท่าน NguyễnVănBình ได้เผยว่า ธนาคาชาติได้ออกมติเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจด้านทองคำ ส่วนรัฐบาลก็ออกมติเกี่ยวกับค่าปรับในการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและทองคำ โดยนอกจากการเพิ่มค่าปรับให้อยู่ในระดับสูงแล้ว ยังมีการเพิ่มบทลงโทษ ยึดทรัพย์และโอนให้เป็นของรัฐซึ่งผลการปฏิบัติดังกล่าวสามารถช่วยควบคุมตลาดทองคำ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศให้มีเสถียรภาพและสามารถควบคุมภาวะเงินเฟ้อได้ในเบื้องต้น เพื่อระดมทองคำในภาคประชาชนที่มีประมาณ 250-300 ตันเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม ธนาคารชาติเวียดนามได้มีโครงการต่อต้านการทำธุรกรรมด้วยทองคำ ในตลอด 5 เดือนที่ผ่านมา ปริมาณทองคำกว่า 60 ตันหรือคิดเป็นมูลค่า 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐได้เปลี่ยนเป็นเงินด่งเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจซึ่งนี่เป็นหนึ่งในมาตรการช่วยเหลือเศรษฐกิจที่ยังคงมีความยากลำบากในปัจจุบันและธนาคารชาติจะลดดอกเบี้ยต่อไปเพื่อช่วยเหลือสถานประกอบการฟื้นฟูการผลิตและประกอบธุรกิจสำหรับมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้เสีย ท่าน NguyễnVănBình ผู้ว่าการธนาคารชาติเวียดนามได้เผยว่า “ระบบธนาคารได้ใช้มาตรการที่เข้มงวดต่างๆโดยหนึ่งคือ องค์กรสินเชื่อต้องทำการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ประเมินสถานการณ์ประกอบธุรกิจของสถานประกอบการเพื่อปรับปรุงวงเงินหนี้โดยมีเวลาชำระหนี้และอัตราดอกเบี้ยที่สอดคล้องกับความสามารถของสถานประกอบการ ประเด็นที่ 2 โดยที่องค์กรสินเชื่อซึ่งอยู่ภายใต้การชี้นำและการตรวจสอบที่เข้มงวดของระบบธนาคารสังกัดธนาคารชาติ ดังนั้น การจัดตั้งกองทุนสำรองเพื่อรับมือกับความเสี่ยงขององค์กรสินเชื่อจึงได้รับการควบคุมเป็นอย่างดีในเวลาที่ผ่านมา ถ้าหากองค์กรสินเชื่อใดที่ยังไม่จัดตั้งกองทุนสำรองความเสี่ยงก็จะไม่ได้กำไรปันผลซึ่งนี่เป็นแนวทางช่วยควบคุมปัญหาหนี้เสีย ไม่ให้ขยายกว้างออกไปและถ้าหากสามารถสอดแทรกกับมาตรการอื่นๆได้  พวกเราเชื่อมั่นว่า จะสามารถแก้ไขปัญหาหนี้เสียได้ 
          ในการตอบกระทู้ถามของผู้แทนรัฐสภาที่เน้นเรื่องราคายารักษาโรค ความไม่สมดุลย์ของจำนวนประชากรเพศชายและเพศหญิง ค่ารักษาในโรงพยาบาลสูงและคุณภาพหน่วยงานสาธารณสุขนั้น รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขเหงวียนทิกิมเตี๊ยนได้กล่าวว่า ทางกระทรวงกำลังร่างแผนการควบคุมราคายารักษาโรคแบบเบ็ดเสร็จคือกำหนดเพดานกำไรให้แก่ยาที่ผลิตในประเทศหรือนำเข้าเป็นการนำร่องโดยประกาศระเบียบการควบคุมราคายาและการจัดประมูล จัดทำบัญชีรายชื่อยา1หมื่น7พันรายการโดยอาศัยข้อมูลจากตลาดต่างประเทศและความร่วมมือจากหลายกระทรวงเพื่อเปรียบเทียบกับราคาขายในประเทศช่วงที่ผ่านมา ซึ่งราคาที่ชนะการประมูลจะต้องต่ำกว่าราคาที่เสนอตามรายชื่อดังกล่าว สำหรับการยกระดับคุณภาพหน่วยงานสาธารณสุข ทางกระทรวงจะเน้นด้านการฝึกอบรมทางวิชาชีพและจรรยาบรรณแพทย์ เพิ่มการตรวจสอบและปรับปรุงระเบียบการลงโทษที่มีความเข้มงวดเพื่อป้องปราม เกี่ยวกับปัญหาความไม่สมดุลย์ของจำนวนประชากรเพศชายและเพศหญิงจะให้ความสนใจมากขึ้นต่อการประชาสัมพันธ์ความรู้ให้แก่ประชาชน
ก่อนหน้านั้น ท่าน TrịnhĐìnhDũng รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการก่อสร้างได้ตอบกระทู้ถามเกี่ยวกับปัญหาที่ผู้แทนรัฐสภาและประชาชนให้ความสนใจ เช่น การเพิ่มความสมบูรณ์ให้แก่กฏหมายการบริหารตัวเมือง การกำหนดราคาประเมินการก่อสร้างใหม่ การปรับปรุงสถานประกอบการก่อสร้าง การแก้ไขปัญหาสินค้าค้างสต๊อกและความปลอดภัยของเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ Sông Tranh 2
การตั้งและตอบกระทู้ถามสมาชิกรัฐบาลในที่ประชุมรัฐสภาครั้งนี้กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากประชามติ ซึ่งผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งได้แสดงความเห็นพ้องและพอใจกับการตอบข้อซักถามของรัฐมนตรีบางท่านในการปฏิบัติการชี้นำและบริหารหน่วยงานที่ตนรับผิดชอบแต่ในขณะเดียวกันก็มีการแสดงความไม่พอใจกับคำตอบแบบรวมๆที่ไม่มีเนื้อหาชัดเจนเกี่ยวกับหน้าที่ความรับผิดชอบต่อหน่วยงานของตน นาย เหงวียนแหมงเอียน จากจ.ลาวกายแสดงความเห็นว่า เมื่อมีการพิจารณาเพิ่มหรือลดราคาน้ำมันนั้น ควรประเมินสถานการณ์ของหลายท้องถิ่นโดยเฉพาะสำหรับจ.เขตเขาและเขตชนกลุ่มน้อยที่ยากจน   ส่วนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งดานังหลายคนแสดงความปรารถนาให้รัฐสภามีมาตรการแก้ไขหนี้เสียและปรับปรุงโครงสร้างระบบธนาคารและองค์กรสินเชื่อ นาย เจิ่นดิ่งเจื่อง ชาวดานังแสดงความเห็นว่า ต้องมีระบบกลไกการบริหารธนาคารที่เข้มแข็งโปร่งใสถึงจะสามารถตรวจสอบควบคุมระบบธนาคารได้ดี ส่วนในนโยบายบริหารการเงินนั้น ปัญหาก็อยู่ที่การปฏิบัติของระบบธนาคารและกระทรวงหน่วยงานกับท้องถิ่นต่างๆ ซึ่งประชามติทั้งประเทศได้แสดงความปรารถนาและเชื่อมั่นว่า หลังการประชุมรัฐสภาครั้งนี้ มติฉบับต่างๆจะได้รับการเผยแพร่และปฏิบัติอย่างจริงจังเพื่อช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศพัฒนาอย่างยั่งยืน และสร้างเสถียรภาพให้แก่ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน./.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด