นาย บินาลิ ยิลดิริม นายกรัฐมนตรีตุรกีกับนาย เหงวียนซวนฟุก นายกรัฐมนตรีเวียดนาม

เวียดนามและตุรกีมีจุดแข็งต่างๆ ซึ่งทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายสามารถปฏิบัติเป้าหมายเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนขึ้นเป็น 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2020  ซึ่งเพื่อสามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ทั้ง 2 ประเทศต้องผลักดันกิจกรรมส่งเสริมการลงทุน การค้าและปฏิบัติข้อตกลงเลี่ยงเก็บภาษีซํ้าซ้อน สำหรับศักยภาพความสัมพันธ์ร่วมมือด้านเศรษฐกิจ นาย บินาลิ ยิลดิริมได้เผยว่า การที่สายการบิน Turkish Airlines ได้เปิดเส้นทางบินตรงเมืองอิสตันบูลกับกรุงฮานอยและนครโฮจิมินห์ได้อำนวยความสะดวกให้แก่กิจกรรมพบปะสังสรรคระหว่างประชาชนทั้ง 2 ประเทศ ส่วนสถานประกอบการตุรกีสามารถเดินทางมาเวียดนามเพื่อศึกษาโอกาสความร่วมมือและการลงทุนด้านการท่องเที่ยว ปิโตรเลี่ยม พลังงานหมุนเวียน การก่อสร้าง อุตสาหกรรมสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูป อุตสาหกรรมทำเหมือง อุตสาหกรรมการต่อเรือ อุตสาหกรรมกลาโหม การศึกษาและการขนส่งทางทะเล เกี่ยวกับนโยบายการต่างประเทศ นาย บินาลิ ยิลดิริมได้ยืนยันว่า ทั้ง 2 ประเทศกำลังประสานงานกันอย่างใกล้ชิดในฟอรั่มต่างๆและสนับสนุนกันในปัญหาต่างๆ เช่น ตุรกีสนับสนุนเวียดนามสมัครเข้าเป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติวาระปี 2020-2021 พร้อมทั้งเสนอให้เวียดนามสนับสนุนตุรกีสมัครเข้าเป็นสมาชิกสภาผู้บริหารองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก้วาระปี 2017 – 2021.