นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้งห์พบปะทวิภาคีนอกรอบการประชุม COP 28
(VOVWORLD) -เมื่อบ่ายวันที่ 2 ธันวาคม ตามเวลาท้องถิ่น ในโอกาสเข้าร่วมการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญากรอบสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือ COP ครั้งที่ 28 ณ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นาย ฝามมิงชิ้งห์ นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้พบปะกับผู้นำประเทศฝรั่งเศส สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คิวบาและสวีเดน ผู้บริหารของ WEF WB และเครือบริษัทต่างๆ
นายกรัฐมนตรี พบปะกับประธานาธิบดีฝรั่งเศส |
ในการพบปะกับประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มากรง นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้งห์ ได้ชื่นชมการพัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศ พร้อมทั้งเสนอให้ทั้งสองประเทศส่งเสริมความร่วมมือและปฏิบัติเนื้อหาที่ได้เห็นพ้องในการพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ระหว่างเลขาธิการใหญ่พรรคฯเหงวียนฟู้จ่องกับประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มากรง เมื่อวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา อีกทั้งเสนอให้ฝรั่งเศสส่งเสริมการให้สัตยาบันข้อตกลงคุ้มครองการลงทุนระหว่างเวียดนามกับอียู ส่วนประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้ชื่นชมศักยภาพความสัมพันธ์ทวิภาคี ส่วนร่วมและความพยายามของเวียดนามในการปฏิบัติแถลงการณ์เกี่ยวกับการเป็นหุ้นส่วนการเปลี่ยนผ่านพลังงานที่เป็นธรรม หรือ JETP และยืนยันว่า รัฐบาลฝรั่งเศสจะสนับสนุนเวียดนามในกระบวนการนี้
ส่วนในการให้การต้อนรับนาย Sheikh Mansour bin Zayed Al Nahyan รองประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้เสนอให้สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ผลักดันการลงทุนและช่วยเหลือเวียดนามในการก่อสร้างและดำเนินงานศูนย์การเงินระหว่างประเทศ ณ นครโฮจิมินห์ ศูนย์นวัตกรรมแห่งชาติ พัฒนาเมืองอัจฉริยะ ปฏิบัติโครงการพลังงานหมุนเวียน พัฒนาอุตสาหกรรมอาหารฮาลาล เสนอให้จัดตั้งกลุ่มปฏิบัติงานร่วมในด้านเศรษฐกิจและการลงทุนเพื่อปฏิบัติคำมั่นระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศและสร้างก้าวกระโดดในความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ส่วนรองประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เผยว่า จะส่งคณะผู้บริหารกระทรวงการลงทุนและสถานประกอบการสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มายังเวียดนามเพื่อศึกษาตลาด พร้อมทั้งยืนยันว่า ให้ความสำคัญต่อการผลักดันความร่วมมือกับเวียดนามและกำหนดเวียดนามเป็นตลาดการลงทุนที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะในด้านพลังงานหมุนเวียน การปรับเปลี่ยนสู่ตามแนวทางดิจิทัลและโครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องผลักดันการเจรจาและลงนามข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจในทุกด้านหรือ CEPA เพื่อมีส่วนช่วยขยายและผลักดันการพบปะสังสรรค์ ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้า
ในการพบปะกับนายกรัฐมนตรีสวีเดน Ulf Kristersson นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้งห์ยืนยันว่าเวียดนามมีความประสงค์ที่จะผลักดันความสัมพันธ์มิตรภาพที่มีมาช้านานกับสวีเดน ซึ่งเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนของเวียดนามในยุโรป เสนอให้ทั้งสองฝ่ายผลักดันการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทุกระดับในปี 2024 ในโอกาสรำลึกครบรอบ 55 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ส่วนนายกรัฐมนตรี Ulf Kristersson เสนอให้ทั้งสองฝ่ายหารือและเห็นพ้องการเปิดเส้นทางบินตรงระหว่างเวียดนามกับประเทศแถบสแกนดิเนเวีย โดยเฉพาะสวีเดนเพื่อผลักดันการท่องเที่ยวและการพบปะสังสรรค์ระดับประชาชน
นายกรัฐมนตรีเวียดนามพบปะกับประธานประเทศคิวบา Miguel Díaz-Canel |
ส่วนในการพบปะกับประธานประเทศคิวบา Miguel Díaz-Canel นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้งห์ยืนยันว่า เวียดนามให้ความสำคัญต่อการเสริมสร้างและกระชับความสัมพันธ์ที่มีมาช้านาน ความสามัคคีและความร่วมมือในทุกด้านระหว่างสองประเทศ สนับสนุนภารกิจการปฏิวัติที่ชอบธรรมของประชาชนคิวบาและจุดยืนที่เสมอต้นเสมอปลายของเวียดนามคือคัดค้านคำสั่งคว่ำบาตรและปิดล้อมคิวบา ส่วนประธานประเทศคิวบากล่าวขอบคุณความช่วยเหลืออันล้ำค่าของรัฐบาลและประชาชนเวียดนามต่อคิวบาในการฟันฝ่าอุปสรรคเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจสังคมเนื่องจากคำสั่งคว่ำบาตรและปิดล้อมและทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะผลักดันการพบปะสังสรรค์ในฟอรั่มพหุภาคี ผลักดันความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การลงทุนและการค้า เป็นต้น
ในการให้การต้อนรับนาย Ajay Banga ประธานธนาคารโลกหรือ WB ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องผลักดันการปฏิบัติโครงการร่วมมือที่มีอยู่ระหว่างเวียดนามกับ WB ประธาน WB ชื่นชมความพยายามและความตั้งใจของรัฐบาลเวียดนามในการปรับเปลี่ยนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การพัฒนาอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งยืนยันว่า สนับสนุนเวียดนามในการกระบวนการนี้และการปฏิบัติคำมั่นและเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศ
ในการพบปะกับนายโนเอล ควินน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ HSBC นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณทางเครือบริษัทฯที่ได้ช่วยเหลือเวียดนามในการปรับเปลี่ยนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ พร้อมทั้งชื่นชมแผนการพัฒนาด้านพลังงานหมุนเวียนของเวียดนาม HSBC อาจผลักดันการปล่อยเงินกู้เพื่อปฏิบัติโครงการพลังงานหมุนเวียนในเวียดนาม
ส่วนในการให้การต้อนรับนาย Borge Brende ประธานสภาบริหาร WEF นายกรัฐมนตรีได้แสดงความยินดีต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับ WEF พร้อมทั้งเผยว่า เวียดนามรับฟังการให้คำปรึกษาของ WEF มีส่วนร่วมรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค ควบคุมภาวะเงินเฟ้อ ค้ำประกันความสมดุลย์ อัตราการดอกเบี้ย โดยคาดว่า จะเกินดุลการค้า 2 หมื่น 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2025 ส่วนนาย Borge Brende เผยว่า ตามผลการสำรวจของ WEF เวียดนามเป็นหนึ่งในสามประเทศที่บรรดนักลงทุนให้ความสนใจมากที่สุด พร้อมทั้งแสดงความประสงค์ว่า นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้งจะเข้าร่วมการประชุม WEF ดาวอส ปี2024.