นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง กล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม

คาดว่า ในปี 2022 เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจภายในประเทศจะยังคงเผชิญความท้าทายจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ดังนั้นหน่วยงานการเงินต้องเน้นปฏิบัติหน้าที่หลักอย่างมีประสิทธิภาพต้องเกาะติดแนวทางของพรรค มติของสภาแห่งชาติและรัฐบาลอย่างใกล้ชิด ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับกระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆ เป็นฝ่ายรุกในการเกาะติดสถานการณ์ภายในประเทศและโลกเพื่อให้คำปรึกษาแก่รัฐบาลอย่างทันการเพื่อรับมือความผันผวนในระดับมหภาคและความผันผวนในด้านการเงินอย่างคล่องตัวเพื่อให้บรรลุเป้าหมายรักษาเสถียรภาพระดับมหภาคและควบคุมภาวะเงินเฟ้อและปฏิบัติโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างมีประสิทธิภาพ

มุ่งจัดทำ ปรับปรุงกลไก นโยบายการเงิน - งบประมาณแผ่นดินให้มีความสมบูรณ์ เร่งสร้างสรรค์รัฐบาลดิจิทัล เน้นบริหารรายรับงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ ค้ำประกันการจัดเก็บรายรับอย่างถูกต้อง เพียงพอและทันการณ์ วางแผนรับมือการรั่วไหลของรายได้และการหลีกเลี่ยงภาษี บริหารรายจ่ายบประมาณในปี 2022 อย่างใกล้ชิด ประหยัดและมีประสิทธิภาพ ค้ำประกันการปฏิบัติหน้าที่สำคัญ เน้นแหล่งพลังสำหรับการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19  นายกรัฐมนตรีได้สั่งให้ประสานนโยบายการคลังกับนโยบายการเงินให้สอดคล้อง กลมกลืน

“ต้องประสานนโยบายการเงินกับนโยบายการคลังให้มีความสอดคล้องกันเพื่อสามารถสนับสนุนการปฏิบัตินโยบายอื่นๆ นโยบายทั้งสองนี้มีความสำคัญมากในการบริหารเศรษฐกิจของประเทศ ต้องเพิ่มรายรับและลดรายจ่าย โดยเฉพาะรายจ่ายที่ไม่จำเป็น ตรวจสอบรายจ่ายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะในขณะที่ต้องปฏิบัตินโยบายรัดเข็มขัด อีกทั้งทบทวนปรับลดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เราต้องควบคุมการใช้จ่ายและบริหารจัดการหนี้สาธารณะให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้”

ควบคู่กันนั้น ต้องเร่งเบิกจ่ายเงินลงทุนภาครัฐ สร้างแรงผลักดันให้เศรษฐกิจฟื้นตัวและเติบโต ส่งเสริมการบริหารราคาและตลาด  ปฏิบัติมาตรการค้ำประกันอุปทานและอุปสงค์ของสินค้าที่จำเป็น รักษาเสถียรภาพของราคาและตลาด โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดและตรุษเต๊ต ประสานนโยบายการเงินและนโยบายมหภาคอื่นๆ ควบคุมอัตราเงินเฟ้อเพื่อมีส่วนร่วมรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค.