ประชาคมโลกมีความประสงค์ที่จะค้ำประกันสิทธิเสรีภาพและความปลอดภัยในการเดินเรือและการบินในทะเลตะวันออก
(VOVWorld)-
ในวันที่๒ของการสัมมนาเชิงวิชาการระหว่างประเทศเกี่ยวกับทะเลตะวันออกครั้งที่๗ บรรดาผู้แทนได้หารือเกี่ยวกับปัญหาทางนิตินัย ความคืบหน้าในการแก้ไขการพิพาทในทะเลตะวันออกและการแสวงหามาตรการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
(Photo: vietnamplus.vn)
(VOVWorld)-
ในวันที่๒ของการสัมมนาเชิงวิชาการระหว่างประเทศเกี่ยวกับทะเลตะวันออกครั้งที่๗ที่จัดโดยสถาบันการต่างประเทศ กองทุนสนับสนุนการวิจัยทะเลตะวันออกและสมาคมทนายความเวียดนาม บรรดาผู้แทนได้หารือเกี่ยวกับปัญหาทางนิตินัย ความคืบหน้าในการแก้ไขการพิพาทในทะเลตะวันออกและการแสวงหามาตรการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยได้ย้ำถึงบทบาทของอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทางทะเลปี1982 ซึ่งถือเป็นพื้นฐานเพื่อการประกาศอธิปไตยและสิทธิอำนาจศาลของประเทศต่างๆในทะเลตะวันออก ในการกล่าวปราศรัยปิดการสัมมนา ผู้อำนวยการสถาบันการทูตเวียดนาม ดั๋งดิ่งกวี๊ เผยว่า แนวโน้มสถานการณ์ในทะเลตะวันออกในอนาคตนั้นยากที่จะเกิดการปะทะครั้งใหญ่ แต่ฝ่ายต่างๆต้องมีวิธีการเข้าถึงปัญหาแบบพหุภาคีให้ความสำคัญต่อบทบาทของฟอรั่มระหว่างประเทศ ให้ความเคารพต่อเสียงพูดของประเทศอื่นๆรวมทั้งต้องปฏิบัติตามกฎหมายสากล
ก่อนหน้านั้น ในวันแรกของการประชุม เมื่อวันที่๒๓พฤศจิกายน บรรดาผู้แทนได้รับฟังบทสุนทรพจน์๑๔บท ความคิดเห็นเกี่ยวกับผลกระทบของสถานการณ์โลกต่อการพิพาทในทะเลตะวันออกและความผันผวนในทะเลตะวันออก บรรดาผู้แทนต่างยืนยันว่า ทุกประเทศต่างได้รับผลประโยชน์จากทะเลตะวันออกที่สันติภาพ เสถียรภาพและมีความประสงค์ที่จะค้ำประกันสิทธิเสรีภาพและความปลอดภัยในการเดินเรือและการบินในทะเลตะวันออก ผลักดันความร่วมมือทางทะเล ซึ่งในนั้น ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจทางทะเลมีบทบาทสำคัญ ผู้แทนบางคนก็ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความพยายามในการแก้ไขปัญหาการพิพาทอย่างสันติ รวมทั้ง การตัดสินใจของอนุญาโตตุลาการที่รับพิจารณาคำร้องของฟิลิปปินส์ที่ฟ้องร้องจีนกรณีพิพาทในทะเลตะวันออก บรรดานักวิชาการยังแสดงความวิตกกังวลต่อการปรับสภาพเกาะและก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างต่างๆอย่างผิดกฎหมายของจีนในทะเลตะวันออก โดยเห็นว่า ทุกฝ่ายต้องมีวิธีการเข้าถึงแบบพหุภาคี ให้ความสำคัญต่อฟอรั่มความมั่นคงในภูมิภาค ให้ความเคารพเสียงพูดของประเทศต่างๆและกฎหมายสากล.