ประธานประเทศเวียดนามและประธานาธิบดีสหรัฐ เป็นประธานร่วมในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน (Photo VNplus)

ประธานประเทศเจิ่นด่ายกวางได้เผยว่า ทั้งสองฝ่ายต่างชื่นชมความสัมพันธ์ทวิภาคีที่เอื้อประโยชน์อย่างแท้จริงให้แก่ประชาชนทั้งสองประเทศ การเยือนเวียดนามครั้งนี้ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้สร้างนิมิตรหมายสำคัญในความสัมพันธ์ทวิภาคีและเป็นพลังขับเคลื่อนให้แก่การขยายความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทุกด้านระหว่างเวียดนามกับสหรัฐอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน “ ผมและท่านโดนัลด์ ทรัมป์ ได้หารือเกี่ยวกับปัญหาระดับภูมิภาคและโลกที่ทั้งสองฝ่ายต่างให้ความสนใจและเห็นพ้องกันขยายการประสานงานในฟอรั่มระดับภูมิภาคและโลกเพื่อมีส่วนร่วมรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคและโลก พวกเรามีความเห็นพ้องเกี่ยวกับบทบาทสำคัญของความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์สหรัฐ – อาเซียนและมีความเชื่อมั่นว่า การขยายความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสหรัฐจะเอื้อประโยชน์ให้แก่ทั้งสองฝ่ายและมีส่วนร่วมขยายความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับอาเซียน เพื่อมีส่วนร่วมต่อสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาในเอเชีย – แปซิฟิกและโลก”

ส่วนประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ย้ำว่า ในตลอด 2 ทศวรรษที่ผ่านมา สหรัฐและเวียดนามได้พยายามแสวงหาความคล้ายคลึงกันบนพื้นฐานผลประโยชน์ร่วมกัน สร้างความเชื่อมโยงเพื่อบรรลุความสัมพันธ์ที่ดีงามในปัจจุบัน การเยือนเวียดนามครั้งนี้ก็เพื่อยืนยันถึงสัมพันธไมตรีที่เชื่อมโยงและความสัมพันธ์หุ้นส่วนที่นับวันพัฒนามากขึ้นระหว่างสองประเทศ “ผมขอชื่นชมเวียดนามที่ได้ปรับปรุงบรรยากาศการลงทุน การค้าและการขยายการส่งออกไปยังสหรัฐ ชนชั้นกลางเวียดนามที่กำลังเพิ่มจำนวนมากขึ้นจะเป็นตลาดที่มีศักยภาพของสถานประกอบการสหรัฐ เป็นเรื่องที่ดีมากที่ผมได้มีโอกาสเดินทางมาเยือนเวียดนาม พวกเราจะร่วมกันขยายความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทุกด้านระหว่างสองประเทศเพื่ออนาคตแห่งความเจริญรุ่งเรืองให้แก่ทั้งสองประเทศ”

ประธานาธิบดีสหรัฐได้ชื่นชมประธานประเทศเวียดนามได้เป็นประธานจัดสัปดาห์ผู้นำเอเปก 2017 ด้วยความสำเร็จอย่างดีงาม พร้อมทั้งยืนยันอีกครั้งถึงคำมั่นของสหรัฐเกี่ยวกับภูมิภาคมหาสมุทรอินเดีย – แปซิฟิกที่เสรีภาพ เปิดกว้าง เอกราช ให้ความเคารพอธิปไตย ธำรงกฎหมายและผลักดันการค้าที่มีความรับผิดชอบ.