ประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะพบปะเจรจากับผู้นำรัฐสภาไทย
(VOVWORLD) -วันที่ 7 ธันวาคม ในกรอบการเยือนไทย นาย เวืองดิ่งเหวะ ประธานสภาแห่งชาติเวียดนามได้มีการเจรจากับนาย วันมูหะมัดนอร์ ประธานรัฐสภาไทยและประธานสภาผู้แทนราษฎรไทย
นาย เวืองดิ่งเหวะ ประธานสภาแห่งชาติเวียดนามáละนาย วันมูหะมัดนอร์ ประธานรัฐสภาไทยและประธานสภาผู้แทนราษฎรไทย |
ในการนี้ ผู้นำทั้งสองท่านได้เห็นพ้องเกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริมบทบาทของสำนักงานนิติบัญญัติของทั้งสองประเทศในการส่งเสริมความไว้วางใจ ขยายความร่วมมือในด้านต่างๆ ผลักดันการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทุกระดับ ปฏิบัติกลไกความร่วมมือ โครงการปฏิบัติความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่เข้มแข็งในช่วงปี 2022 -2027 พยายามเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนขึ้นเป็น 2 หมื่น 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐตามแนวทางที่สมดุล ลดการกีดกันทางการค้า อำนวยความสะดวกให้แก่สถานประกอบการทั้งสองประเทศในการขยายการลงทุนและการประกอบธุรกิจ ทั้งสองฝ่ายให้คำมั่นที่จะส่งเสริมความร่วมมือในด้านกลาโหม ความมั่นคง ความร่วมมือทางทะเล การศึกษาและฝึกอบรม การท่องเที่ยว วัฒนธรรม ประสานงานอย่างใกล้ชิดในฟอรั่มระดับภูมิภาคและโลก ส่งเสริมความสามัคคีและบทบาทการเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในปัญหาระดับภูมิภาค การใช้แหล่งน้ำของแม่น้ำโขงอย่างมีประสิทธิภาพ ยืนยันอีกครั้งถึงความสำคัญของการส่งเสริมความสามัคคีและจุดยืนร่วมของอาเซียนในปัญหาทะเลตะวันออก
บ่ายวันเดียวกัน ที่อาคารรัฐสภาในกรุงเทพฯ ประธานสภาแห่งชาติเวียดนามเวืองดิ่งเหวะ ได้เข้าพบนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา โดยทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะกระชับความร่วมมือระหว่างสภานิติบัญญัติของทั้งสองประเทศต่อไป แลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์ ส่งเสริมบทบาทของกลุ่มสส.มิตรภาพของทั้งสองประเทศ ประสานงานและสนับสนุนซึ่งกันและกันในเวทีรัฐสภาพหุภาคี ร่วมมือเพื่อความสามัคคีและบทบาทเป็นศูนย์กลางของอาเซียน โดยเฉพาะในปัญหาระดับภูมิภาค เช่น ประเด็นเกี่ยวกับทะเลตะวันออกและเมียนมาร์
โอกาสนี้นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภาได้กล่าวชื่นชมความสำคัญของการเยือนไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรกของประธานสภาแห่งชาติเวียดนาม ซึ่งสร้างแรงผลักดันใหม่สำหรับความเป็นหุ้นส่วนร่วมมือยุทธศาสตร์ที่เข้มแข็งระหว่างทั้งสองประเทศ ส่วนประธานสภาแห่งชาติเวียดนามเวืองดิ่งเหวะ ได้ยืนยันว่าเวียดนามให้ความสำคัญและปรารถนาที่จะเสริมสร้างความไว้วางใจและกระชับความร่วมมือยุทธศาสตร์ระหว่างทั้งสองประเทศให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เพื่อมุ่งยกระดับความสัมพันธ์ต่อไปในอนาคตอันไกล้นี้.