ประธานประเทศ เจืองเติ๊นซางกล่าวปราศรัยในพิธี

(VOVworld) – เมื่อค่ำวันที่ 1 กันยายน ณ อาคารรัฐสภา ผู้นำของพรรค รัฐ รัฐบาล รัฐสภาและแนวร่วมปิตุภูมิเวียดนามได้จัดงานเลี้ยงในโอกาสฉลองครบรอบ 70 ปีวันชาติ ในการกล่าวปราศัยในพิธี ท่าน เจืองเติ๊นซาง ประธานประเทศได้ย้ำว่า เมื่อ 70 ปีก่อน การปฏิวัติเดือนสิงหาคมได้ประสบความสำเร็จ เมื่อวันที่ 2 กันยายนปี 1945 ในนามรัฐบาลเฉพาะกาล ประธานโฮจิมินห์ได้อ่านปฏิญญาเอกราชอันเป็นการประกาศต่อหน้าประชาชนและโลกเกี่ยวกับเอราชของประเทศและการกำเนิดของประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามหรือประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามปัจจุบัน เหตุการณ์สำคัญนี้เป็นนิมิตหมายทองในประวัติศาสตร์ของประเทศ ประชาชาติเวียดนามเข้าสู่ยุคใหม่ซึ่งเป็นยุคแห่งเอกราช เสรีภาพและลัทธิสังคมนิยม 70 ปีที่ผ่านมา ถึงแม้ประสบอุปสรรคและความท้าทายไม่น้อย แต่ประชาชนเวีดยนามมีความภาคภูมิใจเพื่อยืนยันว่า ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์สร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาประเทศของประชาชาติ เวียดนามมีความสัมพันธ์กับนานาประเทศอย่างกว้างขวาง เสมอภาค มิตรภาพและมีบรรยากาศที่สะดวกเพื่อพัฒนาดังเช่นปัจจุบัน “จากความภาคภูมิใจเกี่ยวกับผลงานที่ได้บรรลุ ประชาชนเวียดนามมั่นใจต่ออนาคตที่สดใส ผลักดันภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ในทุกด้าน ผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างกว้างลึก ผลักดันการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัย นำประเทศพัฒนาอย่างยั่งยืน ในความสัมพันธ์กับต่างประเทศ เวียดนามยังคงปฏิบัติแนวทางการต่างประเทศที่อิสระ เป็นตัวของตัวเอง สันติภาพ ร่วมมือและพัฒนา มีความสัมพันธ์หลายรูปแบบหลายฝ่าย เป็นมิตรและหุ้นส่วนที่น่าเชื่อถือของทุกประเทศ ปฏิบัติหน้าที่เป็นสมาชิกที่กระตือรือร้นของประชาคมโลกเพื่อสันติภาพ เอกราช ประชาธิปไตยและความก้าวหน้าทางสังคม เวียดนามพร้อมกับประเทศเพื่อนบ้านและประเทศในภูมิภาคมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งต่อการทำรงสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค การแก้ไขการพิพาทและความขัดแย้งด้วยสันติวิธีบนพื้นฐานการให้ความเคารพกฎหมายสากล ตั้งใจร่วมกับประเทศสมาชิกอาเซียนสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียนและวิสัยทัศน์อาเซียนหลังปี 2015”
ในการนี้ นาย Jorge Rondon Uzcategui (ฮอร์เห่ รนดง อูสกาเตกี) เอกอัครราชทูตเวเนซุเอลาประจำเวียดนามได้ย้ำว่า บนเวทีโลก ชื่อเวียดนามผูกพันกับอุดมการณ์ความรุ่งโรจน์ที่สุดของมนุษย์ เข้าร่วมการต่อต้านการเลือกปฏิบัติ ต่อต้านนักล่าเมืองขึ้น ปกป้องอธิปไตยและสิทธิการตัดสินใจด้วยตัวเองของทุกประชาชาติในโลก สามัคคีกับนานาประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่กำลังพัฒนา พัฒนาอย่างยั่งยืนและสันติภาพของโลก พร้อมทั้งแสดงความเชื่อมั่นว่า เวียดนามจะวางแนวทางใหม่ๆต่อไปเพื่อนำประเทศมุ่งสู่การพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยตามเป้าหมายที่ได้วางไว้เมื่อเริ่มปฏิบัติภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่.