ก่อนหน้านั้น  เมื่อบ่ายวันที่ 28 กรกฎาคม ภายหลังการพบปะกับพระสันตะปาปาฟรานซิส ประธานประเทศ หวอวันเถืองได้พบปะกับพระคาร์ดินัลปิเอโตร ปาโรลิน เลขาธิการแห่งนครรัฐวาติกันเพื่อหารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสำนักวาติกันและสถานการณ์การนับถือศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกในเวียดนาม  ในการนี้ ประธานประเทศ หวอวันเถือง ได้แสดงความประสงค์ว่า พระคาร์ดินัลปิเอโตร ปาโรลิน จะให้ความสนใจต่อชมรมชาวคาทอลิกในเวียดนาม มีส่วนร่วมผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสำนักวาติกัน พร้อมทั้งย้ำว่า ให้ความสำคัญต่อบทบาทของสำนักวาติกันในปัญหาระดับโลกและมีความประสงค์ว่า สำนักวาติกันจะมีส่วนร่วมในการไกล่เกลี่ยปัญหาการปะทะ การรักษาสันติภาพ การพัฒนาอย่างยั่งยืน การส่งเสริมความสามัคคี มิตรภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาระหว่างประชาชาติและศาสนาต่างๆในโลกต่อไป

ส่วนพระคาร์ดินัลปิเอโตร ปาโรลิน ได้ชื่นชมผลสำเร็จของเวียดนามในการค้ำประกันเสรีภาพในการนับถือศาสนา รวมทั้งศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณการรับรองของเวียดนามต่อส่วนร่วมของสมาคมคริสตศาสนานิกายคาทอลิกโดยเฉพาะในด้านการกุศล การศึกษา สาธารณสุขและการฝึกสอนอาชีพ อีกทั้งชื่นชมบทบาทของกลุ่มปฏิบัติงานเวียดนาม-วาติกันในการส่งเสริมความเข้าใจและความไว้วางใจกัน เห็นพ้องแก้ไขปัญหาที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันผ่านการสนทนา          บนเจตนารมณ์แห่งการสนับสนุนทุกความคิดริเริ่มในการสร้างสรรค์สันติภาพในโลก สำนักวาติกันเห็นพ้องที่จะสนับสนุนการแก้ไขปัญหาการพิพาทในทะเลตะวันออกผ่านมาตรการที่สันติบนพื้นฐานของกฎหมายสากลและอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982

ในโอกาสที่ประธานประเทศ หวอวันเถืองเยือนสำนักวาติกัน ทั้งสองฝ่ายได้อนุมัติข้อตกลงกลไกการดำเนินงานของทูตพิเศษของสำนักวาติกันและสำนักงานทูตพิเศษ ณ เวียดนาม เวียดนามจะสนับสนุนสำนักวาติกันในการเสร็จสิ้นการปฏิบัติระเบียบการต่างๆเพื่อเปิดสำนักงานทูตพิเศษของสำนักวาติกัน ณ กรุงฮานอยและกิจกรรมต่างๆของทูตพิเศษของสำนักวาติกันประจำเวียดนาม.