ดร. เหงียนห่งหาย ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวเวียดนาม (VNA)

เวียดนามและออสเตรเลียไม่เพียงแต่ผลักดันเสาหลักที่กำลังร่วมมืออยู่เท่านั้น หากยังขยายไปยังด้านความร่วมมือใหม่ๆ เช่น การรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล เศรษฐกิจแห่งสีเขียวและพลังงานแห่งสีเขียว  นี่คือข้อสังเกตของดร. เหงียนห่งหาย นักวิจัยของศูนย์อนาคตนโยบายสังกัดมหาวิทยาลัยQueensland ของออสเตรเลียเนื่องในโอกาสการเยือนเวียดนามของนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย Anthony Albanese ในระหว่างวันที่ 3-4 มิถุนายน

ดร. เหงียนห่งหาย ย้ำว่า นับตั้งแต่เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เมื่อ 5 ปีก่อน คือเมื่อปี 2017 ความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับออสเตรเลียใน 3 เสาหลักคือ เศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน การศึกษาและฝึกอบรม กลาโหมและความมั่นคงได้ประสบผลที่น่ายินดี ปัจจุบันนี้ ออสเตรเลียเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่อันดับ 7 ของเวียดนามและเวียดนามเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่อันดับ 10 ของออสเตรเลีย มูลค่าการค้าต่างตอบแทนในปี 2022 ได้บรรลุประมาณ 1 หมื่น 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเฉพาะในไตรมาสแรกของปีนี้อยู่ที่ 3.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ในด้านการศึกษาและฝึกอบรม ออสเตรเลียเป็นหนึ่งในประเทศที่ดึงดูดนักเรียนนักศึกษาเวียดนามมากที่สุด โดยจนถึงเดือนธันวาคมปีที่แล้ว มีนักเรียนเวียดนามกว่า 22,000 คนไปเรียนที่ออสเตรเลีย คิดเป็นร้อยละ 4 ของจำนวนนักศึกษาต่างประเทศในออสเตรเลีย ทำให้เวียดนามเป็น 1 ใน 5 ประเทศที่มีจำนวนนักศึกษาไปศึกษาต่อในออสเตรเลียมากที่สุด

สำหรับความร่วมมือในด้านความมั่นคงและกลาโหม เมื่อปี 2012 ทั้งสองประเทศได้ยกระดับการสนทนาความมั่นคงในภูมิภาคขึ้นเป็นการสนทนาเชิงยุทธศาสตร์ในระดับรัฐมนตรีช่วยต่างประเทศ – กลาโหมเวียดนาม - ออสเตรเลียและนับตั้งแต่ปี 2013 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของสองประเทศได้จัดการสนทนาเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะในปี 2018 ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในแถลงการณ์เกี่ยวกับวิสัยทัศน์ร่วมว่าด้วยการขยายความร่วมมือในด้านกลาโหม โดยย้ำถึงการขยายความร่วมมือในด้านการเดินเรือและการรักษาสันติภาพ ส่วนการขยายการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและการพบปะสังสรรค์ในระดับประชาชนจะช่วยกระชับความสัมพันธ์มิตรภาพเวียดนาม - ออสเตรเลียให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น.