บทเขียนได้ย้ำถึงการวางแนวทางการพัฒนาประเทศถึงปี 2030 และวิสัยทัศน์ถึงปี 2045 ของสมัชชาใหญ่พรรคามัยที่ 13 ซึ่งตั้งเป้าหมายยุทธศาสตร์ว่าถึงกลางศตวรรษที่ 21เวียดนามจะกลายเป็นประเทศพัฒนาตามแนวทางสังคมนิยม ปลูกเร้าจิตใจแห่งความรักชาติ ความแข็งแกร่งพึ่งตนเอง ความเมตตาอารี ความสมัคคีชนทั้งชาติและความคาดหวังอย่างแรงกล้าในการพัฒนาประเทศเจริญรุ่งเรืองและผาสุก โดยกระบวนการปฏิบัติมติของสมัชชาใหญ่พรรคฯได้บรรลุผลงานที่สร้างจุดเปลี่ยนสำคัญ

บทเขียนได้ให้ข้อสังเกตุว่า สถานการณ์โลกกำลังอยู่ในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงแห่งยุคสมัยดังนั้นเพื่อใช้โอกาสที่สะดวกต่างๆ ป้องกันผลกระทบจากความเสี่ยงและความท้าทาย เพิ่มศักยภาพและพลังที่แข็งแกร่งเพื่อปฏิบัติเป้าหมายต่างๆให้สำเร็จ ทั้งพรรค มวลประชาชนและกองทัพต้องพยายามร่วมแรงร่วมใจสานต่อและส่งเสริมเกียรติประวัติที่รุ่งโรจน์และประสบการณ์อันล้ำค่าของพรรค ยืนหยัดการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมเป็นปัจจัยแกนกลาง การสร้างสรรค์พรรคเป็นปัจจัยแกนหลัก พัฒนาวัฒนธรรมคือพื้นฐานทางจิตใจ การค้ำประกันความมั่นคงและการป้องกันประเทศเป็นเงื่อนไขสำคัญต้องธำรงต่อเนื่อง ส่งเสริมพลังภายในให้เต็มกำลัง ใช้ประโยชน์จากพลังภายนอก โดยเฉพาะให้ความสำคัญและส่งเสริมความสามัคคีเป็นเอกฉันท์ภายในองค์กรพรรค กลุ่มมหาสามัคคีชนทั้งชาติและความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างพรรคและประชาชน        

ท่านเลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม ได้ยืนยันว่าต้องผลักดันงานด้านการสร้างสรรค์และปรับปรุงองค์กรพรรค ยืนหยัดการต่อต้านลัทธิปัจเจกนิยม ต่อต้านความเสื่อมถอยด้านแนวคิด คุณธรรมการดำเนินชีวิต ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันภายในองค์กรพรรค์ด้วยแนวทาง "ไม่หยุด" "ไม่พัก" "ไม่มีเขตต้องห้าม ไม่มีข้อยกเว้น" "ไม่ว่าผู้ทำผิดเป็นไคร" ให้ความสนใจแก้ไขอุปสรรคด้านกลไกนโยบายและผลักดันการปฏิรูประเบียบราชการ อำนวยความสะดวกเต็มที่ให้แก่ทุกกิจกรรมภายใต้กรอบกฎหมายเพื่อมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาประเทศ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ตลอดจนผลักดันภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างรอบด้าน การพัฒนาอย่างรวดเร็วและยั่งยืน เสริมสร้างความแข็งแกร่งของประเทศ เน้นความสนใจต่อการเตรียมพร้อมสำหรับการจัดประชุมสมัชชาพรรคสาขาทุกระดับเพื่อมุ่งสู่การจัดประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่14ให้สำเร็จ.