รำลึกครบรอบ 50 ปีชัยชนะครั้งแรกของกองทัพเรือเวียดนาม
(VOVworld) – กองทัพเรือเวียดนามควรมีความสามัคคีและร่วมมืออย่างใกล้ชิกกับกองกำลังติดอาวุธต่างๆเพื่อปกป้องประเทศ
|
พลเอกฝุ่งกวางแทงกล่าวปราศรัยในพิธี (Photo Quandoinhandan.vn) |
(VOVworld) – วันที่ 4 สิงหาคม กองทัพเรือเวียดนามได้จัดพิธีรำลึกครบรอบ 50 ปีชัยชนะครั้งแรกของกองทัพเรือ กองทัพและประชาชนภาคเหนือเวียดนาม ซึ่งตรงกับวันที่ 2 และ 5 สิงหาคม โดยมีพลเอกฝุ่งกวางแทง สมาชิกกรมการเมือง รองเลขาธิการพรรคสาขากองทัพเรือและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเวียดนามเข้าร่วม
หลังจากที่กองทัพเรือเวียดนามได้ขับไล่เรือมาด๊อกออกจากเขตน่านน้ำของประเทศ ในคืนวันที่ 4 สิงหาคม ทางการปกครองสหรัฐได้ก่อความวุ่นวายด้วยการสร้าง “เหตุการณ์อ่าวทะเลตะวันออก”เพื่อใส่ร้ายป้ายสีกองทัพเวียดนามที่ว่าโจมตีเรือรบสหรัฐที่กำลังปฏิบัติภารกิจในเขตทะเลสากลเพื่อเปิดการโจมตีฐานทัพของกองทัพเรือเวียดนามและสถานที่ที่เป็นเป้าหมายทางเศรษฐกิจและทหารที่สำคัญในเขตริมฝั่งทะเลจากห่อนกายของจังหวัดกว๋างนิงไปจนถึงแม่น้ำแจงของจังหวัดกว๋างบิ่ง เนื่องจากได้เตรียมพร้อมแล้ว ในการสู้รบอย่างดุเดือดกับกองทัพเรือและกองทัพอากาศสหรัฐ กองทัพเรือเวียดนามประสานอย่างใกล้ชิดกับกองทัพอากาศ ตำรวจ ทหารท้องถิ่นและประชาชนทำการสู้รบอย่างกล้าหาญจนยิงตกเครื่องบินรบของสหรัฐอเมริกาตก 8 ลำและจับกัปตันสหรัฐคนแรกในเขตทะเลภาคเหนือเวียดนาม ซึ่งได้สร้างความตกตลึงให้แก่ทางการสหรัฐ
ในพิธีรำลึก พลเอกฝุ่งกวางแทงได้กล่าวชื่นชมประวัติศาสตร์ที่กล้าหาญของกองทัพเรือเวียดนามในกระบวนการสร้างสรรค์และปกป้องประเทศ พัฒนาเกียรติประวัติอันล้ำค่าจากชัยชนะดังกล่าวต่อไป มีความสามัคคีและร่วมมืออย่างใกล้ชิกกับกองกำลังติดอาวุธต่างๆเพื่อปกป้องประเทศ พร้อมทั้งมอบหมายหน้าที่ให้แก่กองทัพเรือในสภาวะการณ์ใหม่ของประเทศว่า “ ต้องสร้างสรรค์ให้เจ้าหน้าที่ทหารทุกนายมีความมั่นคงทางการเมือง ซื่อสัตย์ต่อพรรคและมีความเชื่อมั่นต่อการชี้นำของพรรคและแนวทางการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศของพรรค เพิ่มความระมัดระวัง พร้อมที่จะรับหน้าที่และปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ลุล่วงไปด้วยดี มีความเข้าใจอย่างถูกต้องต่อจุดยืนและแนวทางของพรรคและรัฐในการแก้ไขปัญหาการพิพาทอธิปไตยเหนือทะเลด้วยสันติวิธี รักษาบรรยากาศสันติภาพและเสถียรภาพทางการเมืองของประเทศเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคม ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและรักษาความสัมพันธ์มิตรภาพกับประเทศเพื่อนบ้าน”./.