ในการหารือ ประธานประเทศเหงวียนซวนฟุกได้เสนอให้ยูกันดาอำนวยเงื่อนไขที่สะดวกแก่การนำเข้าส่งออกสินค้าที่เป็นจุดแข้งของแต่ละฝ่าย ซึ่งเวียดนามนำเข้าไม้และฝ้ายจากยูกันดา ส่งออกธัญหาร อาหารแปรรูป  สิ่งทอ วัสดุก่อสร้าง พาหนะขนส่งและอะไหล่ อุปกรณ์โทรคมนาคม ไปยังยูกันดา โอกาสนี้ ประธานประเทศได้แสดงความเชื่อมั่นว่ายูกันดาจะประสบความสำเร็จในการจัดประชุมระดับสูงขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดในปี2023และในการปฏิบัติหน้าที่ประธานขบวนการนี้วาระปี2023-2026

ส่วนประธานาธิบดียูกันดาได้แสดงความยินดีต่อเวียดนามที่ได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติวาระ2023-2025 มีความมั่นใจในส่วนร่วมของเวียดนามต่อความพยายามรักษาสันติภาพ ความมั่นคงและการพัฒนาของสหประชาชาติ

ผู้นำสองประเทศยังได้กล่าวยืนยันถึงศักยภาพความร่วมมือที่ยิ่งใหญ่ระหว่างสองประเทศและเห็นพ้องแนวทางการส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคีให้พัฒนาในเชิงลึกและมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมการประสานงานและสนับสนุนกันในเวทีพหุภาคีต่างๆ ย้ำถึงบทบาทสำคัญของความร่วมมือภาคการเกษตรที่เป็นหนึ่งในเสาหลักของความร่วมมือทวิภาคีตลอดจนเห็นพ้องขยายความร่วมมือในด้านอื่นๆที่ยังมีศักยภาพเช่นการศึกษา โทรคมนาคม สาธารณสุข การท่องเที่ยว เป็นต้น

หลังการเจรจา ผู้นำเวียดนามและยูกันดาเป็นสักขีพยานการลงนามเอกสารความร่วมมือหลายฉบับที่เกี่ยวข้องกับงานด้านการทูต การศึกษา การสื่อสารและเทคโนโลยีการเกษตร.