นาย เจิ่นก๊วกแค้ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรม ( cand.com.vn)

ข้อตกลงอีวีเอฟทีเอมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมปี 2020 โดยในปีแรก มูลค่าการค้าต่างตอบแทนบรรลุประมาณ 5 หมื่น 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 12 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมาของปี 2022 ยอดมูลค่าการนำเข้าและส่งออกบรรลุ 5 หมื่น 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 จุดเด่นในกิจกรรมการส่งออกไปยังสหภาพยุโรปหรืออียูคืออัตราสถานประกอบการเวียดนามที่ใช้ประโยชน์จากสิทธิพิเศษของข้อตกลงอีวีเอฟทีเออยู่ในระดับสูง ซึ่งในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม นาย เจิ่นก๊วกแค้ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมแสดงความเห็นว่า ศักยภาพและโอกาสจากตลาดอียูยังอยู่ในระดับสูง

“เพื่อใช้โอกาสจากข้อตกลงอีวีเอฟทีเออย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ต้องมองอย่างตรงไปตรงมาว่า ถึงแม้เราได้บรรลุความสำเร็จ แต่นี่เป็นแค่ผลงานในเบื้องต้นเท่านั้น ศักยภาพและโอกาสจากตลาดอียูยังมีอีกมากมาย สถานประกอบการเวียดนามยังคงประสบอุปสรรคในการเจาะตลาดนี้เนื่องจากเหตุผลต่าง ๆ แบรนด์เวียดนามยังไม่ได้รับการสร้างสรรค์ ไม่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในประเทศต่างๆในยุโรป  คุณค่าและผลประโยชน์ที่สถานประกอบการได้รับยังไม่ทัดเทียมกับศักยภาพที่มี”

เพื่อสนับสนุนสถานประกอบการใช้โอกาสจากตลาดยุโรปอย่างมีประสิทธิภาพผ่านข้อตกลงอีวีเอฟทีเอ กระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมได้ประสานกับกระทรวงและหน่วยงานเน้นปฏิบัติเนื้อหาต่างๆ เช่น การแก้ไขปัญหาการเชื่อมโยงให้แก่สถานประกอบการผ่านการอัพเดทและปรับปรุงเว็บไซต์ข้อมูลเกี่ยวกับเอฟทีเอ ผลักดันการเชื่อมโยงและอำนวยความสะดวกให้แก่สถานประกอบการในการใช้โอกาสจากข้อตกลงอีวีเอฟทีเออย่างเต็มที่.