“สร้างความไว้วางใจทางยุทธศาสตร์เพื่อสันติภาพ ความร่วมมือและความเจริญไพบูลย์”
(VOVworld)- ค่ำวันที่31พฤษภาคม ณ ประเทศสิงคโปร์ การสนทนาแชงกรีล่าครั้งที่๑๒ได้เปิดขึ้นอย่างเป็นทางการโดยท่านเหวียนเตินหยุงนายกฯเวียดนามได้กล่าวปราศรัยเปิดการประชุมที่สำคัญด้านความมั่นคงและการป้องกันประเทศของภูมิภาคนี้
(VOVworld)- ค่ำวันที่31พฤษภาคม ณ ประเทศสิงคโปร์ การสนทนาแชงกรีล่าครั้งที่๑๒ได้เปิดขึ้นอย่างเป็นทางการโดยท่านเหวียนเตินหยุงนายกฯเวียดนามได้กล่าวปราศรัยเปิดการประชุมที่สำคัญด้านความมั่นคงและการป้องกันประเทศของภูมิภาคนี้
|
นายกฯเวียดนามได้กล่าวปราศรัยเปิดการประชุม
|
จากหัวข้อ “สร้างความไว้วางใจทางยุทธศาสตร์เพื่อสันติภาพ ความร่วมมือและความรุ่งเรืองของเอเซียแปซีฟิก” นายกฯเวียดนามได้ยืนยันว่า ภูมิภาคเอเซียแปซีฟิกกำลังพัฒนาอย่างคล่องตัวโดยมี3เศรษฐกิจใหญ่และเศรษฐกิจที่เพิ่งโดดเด่นอีกหลายประเทศดังนั้นการให้ความร่วมมือและการเชื่อมโยงกันในหลายระดับและหลายด้านนับวันยิ่งกลายเป็นแนวโน้มหลัก แต่ถึงอย่างไรก็ดีจากภาพรวมของทั้งภูมิภาคในเวลาที่ผ่านมาได้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับภัยคุกคามและความท้าทายที่นับวันยิ่งเพิ่มมากขึ้นต่อสันติภาพและความมั่นคง นายกฯได้ย้ำว่า การแข่งขันและการแทรกแซงเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นในกระบวนการร่วมมือและพัฒนา แต่ถ้าหากสิ่งนี้ได้รับการปฏิบัติเพื่อประโยชน์ส่วนตัว ไม่เสมอภาค ขัดกับกฎหมายสากลและขาดความโปร่งใสแล้วก็ไม่อาจสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกันซ้ำอาจจะนำไปสู่ความแตกแยก ความระแวงสงสัยและการกีดกันที่จะส่งผลเสียต่อสันติภาพ ความร่วมมือและการพัฒนา ซึ่งหากปล่อยให้สถานการณ์ตกเข้าสู่ภาวะไร้เสถียรภาพ โดยเฉพาะเกิดการปะทะทางทหารแล้วก็จะไม่มีฝ่ายใดเป็นผู้ชนะ ดังนั้นต้องร่วมกันสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจทางยุทธศาสตร์เพื่อผลประโยชน์ร่วมของทั้งภูมิภาค เพื่อสร้างความไว้วางใจแห่งยุทธศาสตร์ ทุกฝ่ายต้องให้ความเคารพกฎหมายสากล เชิดชูความรับผิดชอบของประเทศต่างๆโดยเฉพาะประเทศใหญ่ๆและเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานในระเบียบความร่วมมือด้านความมั่นคงพหุภาคี ในยุคปัจจุบัน กฎบัตรสหประชาชาติ กฎหมายสากลและหลักการณ์ มาตรฐานต่างๆในการปฏิบัติต่อกันได้กลายเป็นคุณค่าที่ควรได้รับการเคารพของมนุษยชาติ นี่คือปัจจัยชี้ขาดเพื่อสร้างความไว้วางใจทางยุทธศาสตร์ ไม่ว่าประเทศใดแม้จะเล็กหรือใหญ่ก็ต้องสร้างความสัมพันธ์ที่เสมอภาคกัน ให้ความเคารพกันและต้องมีความเชื่อมั่นต่อกัน
|
การสนทนาแชงกรีล่าครั้งที่๑๒ได้เปิดขึ้นอย่างเป็นทางการ
|
เกี่ยวกับบทบาทของภูมิภาคอาเซียนที่สามัคคีเป็นเอกฉันท์และมีบทบาทเป็นศูนย์กลางในระเบียบความร่วมมือพหุภาคี ท่านเหงวียนเตินหยุงชี้ว่า อาเซียนจะมีความเข้มแข็งมั่นคงพร้อมการส่งเสริมบทบาทสถานะในภูมิภาคได้ก็ต่อเมื่อพัฒนาเป็นกลุ่มที่เอกภาพและสามัคคี มิฉะนั้นอาเซียนจะสูญเสียชื่อเสียงและสิ่งนี้จะไม่เอื้อประโยชน์ให้แก่ทั้งอาเซียนและประเทศหุ้นส่วน เราต้องการอาเซียนที่สามัคคีและเข้มแข็งมั่นคง ร่วมมือกับทุกประเทศอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อสร้างสันติภาพและนำความรุ่งเรืองมาสู่ภูมิภาค หากมิใช่การพัฒนาอาเซียนที่ประเทศสมาชิกต้องเลือกเอาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพื่อผลประโยชน์ของประเทศตนในความสัมพันธ์กับประเทศใหญ่ๆ ดังนั้นหน้าที่ความรับผิดชอบของเราคือต้องเพิ่มความไว้วางใจในการแก้ไขปัญหาต่างๆ กระชับความร่วมมือที่เอื้อประโยชน์แก่กัน ประสานผลประโยชน์แห่งชาติของประเทศตนกับประเทศอื่นๆทั้งในและนอกภูมิภาค
เกี่ยวกับปัญหาทะเลตะวันออกนายกฯเวียดนามได้ย้ำว่าอาเซียนและจีนต้องร่วมกันสร้างความไว้วางใจทางยุทธศาสตร์ ซึ่งก่อนอื่นคือการปฏิบัติแถลงการณ์ว่าด้วยการปฏิบัติของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือดีโอซี พยายามยิ่งขึ้นเพื่อร่างหลักปฏิบัติต่อกันหรือซีโอซีที่สอดคล้องกับกฎหมายสากล โดยเฉพาะอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฏหมายทางทะเลปี1982 ในบทปราศรัยนายกฯเหงวียนเตินหยุงได้ยืนยันอีกครั้งถึงแนวทางการต่างประเทศของเวียดนามและแสดงความปรารถนาที่จะสร้างสรรค์ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์กับทุกประเทศสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติบนพื้นฐานแห่งหลักการเอกราช อธิปไตย ไม่แทรกแซงกิจการภายในของกันและกัน ให้ความเคารพและร่วมมือกันอย่างเสมอภาค
ในโอกาสนี้นายกฯเหงวียนเตินหยุงได้แจ้งให้ที่ประชุมรับทราบการตัดสินใจของเวียดนามที่จะเข้าร่วมกิจกรรมการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติโดยก่อนอื่นคือเข้าร่วมกิจกรรมของหน่วยทหารช่าง เสนารักษ์และผู้สังเกตุการณ์ทางทหาร นโยบายการป้องกันประเทศของเวียดนามคือสันติภาพและการป้องกันตัวเอง เวียดนามไม่เป็นพันธมิตรทางทหารกับไม่ว่าประเทศใด ไม่อนุญาตให้มีการตั้งฐานทัพของทหารต่างชาติในดินแดนของเวียดนามและไม่ร่วมมือกับประเทศอื่นเพื่อต่อต้านประเทศใดประเทศหนึ่งในโลก การที่เวียดนามเพิ่มศักยภาพกองทัพให้ทันสมัยนั้นก็เพื่อเป้าหมายป้องกันตัวเองและปกป้องผลประโยชน์ที่ชอบธรรมของตนเท่านั้นมิใช่มุ่งเป้าต่อต้านประเทศอื่น
ต่อภัยคุกคามและความท้าทายด้านความมั่นคงในภูมิภาคเช่นความผันผวนที่ซับซ้อนบนคาบสมุทรเกาหลี การพิพาทด้านอธิปไตยในทะเลหัวตุ้งและทะเลตะวันออก นายกฯเวียดนามได้ยืนยันว่า เวียดนามยืนหยัดแก้ไขปัญหาต่างๆอย่างสันติ ให้ความเคารพกฎหมายสากล เอกราช อธิปไตยและผลประโยชน์ที่ชอบธรรมของกัน ใช้ความอดกลั้นและไม่ใช้หรือข่มขู่ที่จะใช้กำลัง เวียดนามยืนยันการปฏิบัติแถลงการณ์6ข้อของอาเซียนเกี่ยวกับทะเลตะวันออก พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อร่วมกับอาเซียนและจีนปฏิบัติดีโอซีและมุ่งบรรลุซีโอซีโดยเร็ว โดยที่เป็นประเทศอยู่ริมฝั่งทะเลเวียดนามยืนยันและจะปกป้องสิทธิผลประโยชน์ที่ชอบธรรมของตนตามกฎหมายสากลโดยเฉพาะอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี1982
ปิดท้ายบทปราศรัยท่านเหงวียนเตินหยุงได้เรียกร้องให้ทุกประเทศแสดงความสามัคคีผ่านการเข้าร่วมกิจกรรมที่เป็นรูปธรรมต่างๆเพื่อสร้างเสริมความไว้วางใจทางยุทธศาสตร์เพื่อภูมิภาคเอเซียแปซีฟิกแห่งสันติภาพ ความร่วมมือและความเจริญไพบูลย์./.