บทความได้ให้ข้อสังเกตว่า การเยือนครั้งประวัติศาสตร์นี้ของนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงห์ชิ้งจะนำความสัมพันธ์ที่มีมาช้านามระหว่างสองประเทศขึ้นสู่ขั้นความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์ใหม่ ในฐานะประเทศที่มีบทบาทสำคัญในอาเซียน เวียดนามและอินโดนีเซียต่างตระหนักได้ดีเกี่ยวกับการบรรลุเป้าหมายร่วมของอาเซียน การธำรงสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค โดยเฉพาะปัญหาทะเลตะวันออก ก่อนที่จะเข้าร่วมการประชุมผู้นำอาเซียน นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงห์ชิ้ง ได้มีการพบปะทวิภาคีกับประธานาธิบดีอินโดนีเซีย โจโก วิโดโด เพื่อหารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทวิภาคี ปัญหาระดับภูมิภาคและโลก ผลักดันให้มูลค่าการค้าต่างตอบแทนเพิ่มขึ้นเป็น 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ บทความยังย้ำถึงผลสำเร็จต่างๆของเวียดนาม โดยเฉพาะการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ในเวลาที่ผ่านมา และยังแสดงความเชื่อมั่นว่า ผู้นำชุดใหม่ของเวียดนามจะปฏิบัติยุทธศาสตร์และนโยบายในปัจจุบันต่อไปเพื่อการขยายตัวอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งตั้งความหวังต่อนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงห์ชิ้งว่า จะเน้นพัฒนาเศรษฐกิจ การค้า ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ลดความตึงเครียดในทะเลตะวันออกและส่งเสริมความร่วมมือเพื่อความเป็นหนึ่งเดียวของกลุ่มอาเซียน