เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม นาย Arief Cahyono หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์และการสื่อสารสาธารณะของกระทรวงการเกษตรของอินโดนีเซียได้เผยว่า กระทรวงการเกษตรของอินโดนีเซียวางแผนที่จะเชิญนักลงทุนเวียดนามไปพัฒนาอุตสาหกรรมนมในประเทศนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำนมของประเทศ นาย Arief Cahyono ย้ำว่า ความร่วมมือระหว่างอินโดนีเซียกับเวียดนามเน้นถึงการเพิ่มกำลังการผลิตในประเทศเพื่อบรรลุเป้าหมายการพึ่งตนเองด้านอาหาร

ตามรายงานของกระทรวงเกษตรของอินโดนีเซีย ข้อเสนอนี้ประกอบด้วยการเชิญบริษัทเวียดนามพัฒนาฟาร์มโคนมในอินโดนีเซีย โดยเฉพาะใน Poso ในภาคกลางสุลาเวสี ถ้าหากการลงทุนเป็นไปตามแผนการที่วางไว้ ผลผลิตน้ำนมจากอุตสาหกรรมภายในประเทศจะสูงถึง 1.8 ล้านตันภายใน 3 ถึง 5 ปี ดังนั้น จะตอบสนองความต้องการนมของประเทศถึงครึ่งหนึ่งซึ่งปัจจุบันยังคงขึ้นอยู่กับการนำเข้า ขั้นตอนนี้คาดว่าจะส่งผลในเชิงบวกโดยจะสร้างงานทำใหม่ ลดการว่างงานและปรับปรุงสวัสดิการสังคมให้แก่ชุมชนของท้องถิ่น นี่ยังเป็นขั้นตอนที่เป็นรูปธรรมของกระทรวงการเกษตรของอินโดนีเซียในการลดการพึ่งพาการนำเข้าและส่งเสริมอุตสาหกรรมนมของประเทศ

หนึ่งในเนื้อหาที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆของประธานาธิบดีคนใหม่ของอินโดนีเซีย ปราโบโว ซูเบียนโต คือการทำให้อินโดนีเซียกลายเป็นอู่อาหารระดับโลก เพื่อให้อินโดนีเซียบรรลุเป้าหมายของการพึ่งพาตนเองด้านอาหารได้ ผู้นำอินโดนีเซียมองโลกในแง่ดีว่า อินโดนีเซียจะสามารถพึ่งตนเองด้านอาหารได้ภายในเวลา 4 ถึง 5 ปีข้างหน้า.

ผู้สื่อข่าวของวีโอวีประจำอินโดนีเซีย