นาย เวืองดิ่งเหวะเผยว่า ในเวลาที่ผ่านมา เงินทุนของไทยที่ลงทุนในกรุงฮานอยยังไม่สูงนัก ซึ่งหวังว่า ในเวลาข้างหน้า สถานประกอบการไทยจะเข้ามาลงทุนในกรุงฮานอยมากขึ้น ปัจจุบันนี้ กรุงฮานอยกำลังปฏิบัติมาตรการต่างๆอย่างพร้อมเพรียงเพื่อฟื้นฟู พัฒนาเศรษฐกิจ รวมทั้งจัดการประชุมส่งเสริมการลงทุนในขนาดใหญ่ในวันที่ 27 มิถุนายน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของทางการกรุงฮานอยในการดึงดูแหล่งเงินลงทุนทั้งภายในและจากต่างประเทศ โอกาสนี้ นายเวืองดิ่งเหวะได้เชิญนาย ธานี แสงรัตน์และสถานประกอบการไทยเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว

ส่วนนาย ธานี แสงรัตน์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงฮานอย ได้ชื่นชมการป้องกันและแก้ไขการแพร่ระบาดโควิด-๑๙ ของเวียดนาม โดยเฉพาะของกรุงฮานอยที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งได้รับคำชื่นชมจากประชาคมระหว่างประเทศ พร้อมทั้งย้ำว่า ปี 2020 คือช่วงเวลาที่เหมาะสมเพื่อหารือเกี่ยวกับกลไกต่างๆเพื่อผลักดันและอำนวยความสะดวกให้แก่การค้าและการลงทุนทวิภาคี โดยเสนอแผนการจัดการสัมมนาระหว่างสองฝ่ายเพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาการค้าและการลงทุน ในเวลาข้างหน้าไทยจะจัดการพบปะสังสรรค์แลกเปลี่ยนประจำปี ณ ประเทศไทย โดยนาย ธานี แสงรัตน์ ได้แสดงความประสงค์ว่าทางการกรุงฮานอยจะส่งตัวแทนเข้าร่วมและประสานงานจัดกิจกรรมการพบปะสังสรรค์ด้านวัฒนธรรม ณ กรุงฮานอยในปี 2021 เพื่อมุ่งสู่การรำลึกครบรอบ 45 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต

โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายยังแสดงความประสงค์เกี่ยวกับการเปิดเที่ยวบินระหว่างไทย-เวียดนามและกรุงเทพฯ-กรุงฮานอย พร้อมทั้งเห็นพ้องกันว่า แม้กรุงฮานอยและกรุงเทพฯได้มีข้อตกลงร่วมมือฉบับต่างๆ แต่ยังไม่ทัดเทียมกับศักยภาพที่มีอยู่ ดังนั้น ควรพิจารณายกระดับความสัมพันธ์ในปัจจุบัน มุ่งสู่การจัดตั้งความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้องระหว่างกรุงฮานอยกับกรุงเทพฯ.