ภาพของการประชุม

ในการนี้ นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้แจ้งให้บรรดานักลงทุนญี่ปุ่นรับทราบเกี่ยวกับบรรยากาศการลงทุนและประกอบธุรกิจที่น่าสนใจของเวียดนาม  พร้อมทั้ง เผยว่า ในแนวโน้มของการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่4  เวียดนามได้ปรับเปลี่ยนพลังขับเคลื่อนของการขยายตัวทางเศรษฐกิจให้เป็นหน่วยงานที่มีมูลค่าสูง  ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและแหล่งบุคลากรที่มีคุณภาพสูง  อีกทั้ง ย้ำว่า เวียดนามมีจุดแข็งและศักยภาพในการพัฒนาในด้านต่างๆ  รวมทั้ง ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ  หน่วยงานเทคโนโลยีสารสนเทศได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็วในเวียดนาม   นายกรัฐมนตรียังเรียกร้องให้บรรดานักลงทุนญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในด้านต่างๆ โดยเฉพาะ โครงการที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง โครงการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและการพัฒนามนุษย์  โดยเน้นถึง6ด้านได้แก่ อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักรกลการเกษตร การแปรรูปผลิตภัณฑ์การเกษตร ป้าไม้และสัตว์น้ำ  การต่อเรือ สิ่งแวดล้อม  การประหยัดพลังงาน  การผลิตรถยนต์ รัฐบาล กระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆของเวียดนามจะอำนวยความสะดวกให้แก่บรรดานักลงทุนญี่ปุ่นที่เข้ามาลงทุนและประกอบธุรกิจในเวียดนาม  หลังจากที่ได้รับฟังความคิดเห็นของบรรดาสถานประกอบการญี่ปุ่น นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุก ได้เผยว่า“บรรดาสถานประกอบการญี่ปุ่นได้เสนอบางปัญหาเกี่ยวกับสิทธิการใช้ที่ดิน  ซึ่งถูกระบุอย่างชัดเจนในรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่ดิน  โดยกำหนดระยะเวลาเช่าที่ดินคือ50ปีและอาจขยายเวลาถ้าหากมีความต้องการ   สำหรับการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่บริหาร  พวกเราจะเสนอให้มหาวิทยาลัยต่างๆของเวียดนามทำการวิจัย โดยเฉพาะ มหาวิทยาลัยเวียดนาม-ญี่ปุ่น  หน่วยงานโลจิสติกของเวียดนามกำลังได้รับการพัฒนาและเวียดนามจะพิจารณาการปรับปรุงข้อกำหนดต่างๆ  โดยบรรดาสถานประกอบการได้เสนอให้สมทบเงินทุนได้กว่าร้อยละ49  พวกเราจะพิจารณาข้อเสนอดังกล่าวและมีคำตอบโดยเร็ว”

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุก ได้เผยว่า เวียดนามยินดีต้อนรับสถานประกอบการญี่ปุ่นที่เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆของปีเอเปกเวียดนาม2017  นี่เป็นโอกาสเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับเวียดนาม  ขยายการประกอบธุรกิจและแสวงหาโอกาสการลงทุนในเวียดนาม.