รองนายกรัฐมนตรีหวูดึ๊กดาม ได้กล่าวยืนยันในที่ประชุมว่า ในรอบ๒๖วันที่ผ่านมาเวียดนามไม่พบผู้ติดเชื้อโควิดใหม่ในชุมชน

ซึ่งความเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อในชุมชนนั้นอยู่ในระดับต่ำ แต่การระบาดของโรคยังคงมีความซับซ้อนยากที่จะคาดการณ์ได้และยังจะมีความเสี่ยงจากเที่ยวบินที่รับพลเมืองเวียดนามและผู้เชี่ยวชาญต่างชาติจากต่างประเทศ ดังนั้นในสภาวการณ์ที่ยังไม่สามารถวิจัยเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันต้านไวรัสของชุมชนและยังไม่มีวัคซีนหรือยารักษาโรค ทุกหน่วยงานต้องตระหนักไว้ว่างานด้านการป้องกันโควิด-๑๙อาจจะยาวนานนับปี ดังนั้นเวียดนามต้องปฏิบัติ๒มาตรการ หนึ่งคือตั้งแนวป้องกันรอบนอกซึ่งประชาชนในประเทศสามารถใช้ชีวิตตามปกติแต่กองกลังสาธารณสุข ทหารและตำรวจจะยังคงปฏิบัติหน้าที่ป้องกันโรคต่อไปเพื่อจัดทำฐานข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพประชาชนและเร่งทำการวิจัยเพื่อผลิตวัคซีน ต้องปฏิบัติมาตรการแยกตัวผู้เข้าเมืองตามด่านสากลต่างๆต่อไป

ส่วนตัวแทนองค์การอนามัยโลกประจำเวียดนามได้ชื่นชมผลงานด้านการป้องกันโควิดของเวียดนามโดยเฉพาะประสบการณ์ในการประชาสัมพันธ์ความเสี่ยงแต่เนิ่นๆ มีการเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส ควบคุมการเข้าออกเมืองตามด่านสากลต่างๆอย่างเข้มงวด ระบบสาธารณสุขชุมชนดำเนินงานอย่างมีประสิทธิผลจึงสามารถควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อในระดับต่ำ ไม่ปล่อยให้เกิดปัญหาโรงพยาบาลล้นเตียงและยังไม่มีผู้ป่วยโควิดเสียชีวิต แต่นี่เป็นเพียงผลงานเบื้องต้นเพราะยังมีความเสี่ยงต่อการระบาดรอบใหม่ที่เข้ามาจากต่างประเทศดังนั้นบรรดาผู้เชี่ยวชาญได้เสนอให้เวียดนามตรวจสอบระเบียบการเดินทาง การท่องเที่ยว การค้าขาย เพื่อประเมินความเสี่ยงและเตรียมมาตรการที่สอดคล้องกับสถานการณ์ใหม่.