ภาพของการพบปะ (Photo: TTXVN)

ในการนี้ รองนายกรัฐมนตรี เจิ่นห่งห่า ได้เสนอให้ทั้งสองฝ่ายส่งเสริมเสาหลักการลงทุนและการค้าผ่านการปฏิบัติข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างเวียดนามกับอียู หรือ EVFTA บรรดาประเทศสมาชิกอียูให้สัตยาบันข้อตกลงการคุ้มครองการลงทุนระหว่างเวียดนามกับอียูและอีซียกเลิกใบเหลืองต่อสัตว์น้ำเวียดนามโดยเร็ว ขยายความร่วมมือในการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การปรับเปลี่ยนด้านพลังงาน โดยเฉพาะผ่านกรอบข้อตกลงการเป็นพันธมิตรด้านการเปลี่ยนผ่านพลังงานที่เป็นธรรม หรือ JETP เวียดนามพร้อมเป็นสะพานเชื่อมระหว่างอียูกับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีความประสงค์ที่จะประสานงานอย่างใกล้ชิดในการปฏิบัติความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างอาเซียนกับอียู

ส่วนนาย Josep Borrell  ยืนยันว่า เวียดนามเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญของอียูในภูมิภาคเอเชีย พร้อมทั้งประเมินว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับอียูกำลังพัฒนาในทุกด้าน โดยเฉพาะเศรษฐกิจและการค้าผ่านการใช้ประโยชน์จากข้อตกลง EVFTA  ซึ่งช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนระหว่างสองฝ่ายขึ้นเป็นร้อยละ 20 เมื่อปีที่แล้ว พร้อมทั้งเห็นพ้องปฏิบัติข้อตกลง EVFTA และกรอบความร่วมมือต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพ ให้คำมั่นที่จะช่วยเหลือเวียดนามในกรอบของข้อตกลง JETP  อีกทั้งรับทราบความพยายามของเวียดนามและเสนอให้เวียดนามประสานงานอย่างใกล้ชิด ปฏิบัติทุกข้อเสนอของอีซีเพื่อมุ่งสู่การยกเลิกใบเหลือง IUU โดยเร็ว ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนจุดยืนเกี่ยวกับการธำรงสันติภาพ เสถียรภาพ เสรีภาพ ความปลอดภัยในการบิน การเดินเรือ การแก้ไขปัญหาการพิพาทผ่านมาตรการที่สันติบนพื้นฐานของกฎหมายสากลและอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982

ส่วนในการให้การต้อนรับนาย Wopke Hoekstra ข้าหลวงใหญ่ด้านสภาพภูมิอากาศของอียู รองนายกรัฐมนตรี เจิ่นห่งห่า ยืนยันว่า เวียดนามมีความตั้งใจและเป็นฝ่ายรุกในการปฏิบัติคำมั่นต่างๆในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือ COP ครั้งที่ 26  เสนอให้อียูประสานงานอย่างใกล้ชิดเพื่อเสร็จสิ้นการปฏิบัติแผนการระดมแหล่งพลังเพื่อปฏิบัติ JETP  อีกทั้งเสนอให้เวียดนามสนับสนุนความคิดริเริ่มของอียูในการประชุม COP 28 รวมทั้งคำมั่นระหว่างประเทศเกี่ยวกับพลังงานหมุนเวียนและประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และยืนยันว่า อียูสนับสนุนเวียดนามในการปรับเปลี่ยนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม.