ในการกล่าวถึงกรณีที่เมื่อวันที่ 16กันยายน ฝรั่งเศส เยอรมนีและอังกฤษได้ส่งหนังสือร่วมเกี่ยวกับปัญหาทะเลตะวันออกถึงสหประชาชาติ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเลถิทูหั่งได้ยืนยันอีกครั้งถึงจุดยืนของเวียดนามเกี่ยวกับปัญหาทะเลตะวันออกว่า  เวียดนามเห็นว่าประเทศต่างๆควรร่วมแสดงความเห็นและเป้าหมายในการธำรงและส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพและความร่วมมือเพื่อการพัฒนาในทะเลตะวันออกและเพื่อที่จะสามารถปฏิบัติสิ่งนี้สิ่งที่จำเป็นคือต้องมีการเคารพกฎหมายและระเบียบการปฏิบัติทางทะเลรวมทั้งการปฏิบัติUNCLOSด้วยความรับผิดชอบสูง เวียดนามยินดีต่อจุดยืนของประเทศต่างๆต่อปัญหาทะเลตะวันออกที่สอดคล้องกับกฎหมายสากลและแลกเปลี่ยนทัศนะที่ระบุในประกาศการประชุมอาเซียน36และแถลงการณ์ร่วมของเอเอ็มเอ็ม53ที่ว่า UNCLOS 1982 คือกรอบทางนิตินัยที่สามารถปรับทุกปฏิบัติการในทะเลและมหาสมุทร

พร้อมกับประเทศอาเซียนต่างๆ เวียดนามหวังว่า ทุกชาติรวมทั้งผู้ที่เป็นหุ้นส่วนของอาเซียนจะพยายามมีส่วนร่วมในการธำรงสันติภาพ เสถียรภาพและความร่วมมือในทะเลตะวันออก แก้ไขทุกปัญหาการพิพาทผ่านการเจรจาและใช้มาตรการที่สันติอื่นๆตามกฎหมายสากลเพื่อผลประโยชน์ร่วมของภูมิภาค

เกี่ยวกับการฟื้นฟูกระบวนการเจรจาซีโอซี และข่าวที่ว่าฟิลิปปินส์จะพยายามเสร็จสิ้นการเจรจารอบที่2ของซีโอซีก่อนส่งมอบหน้าที่ผู้ประสานงานอาเซียน-จีนในปี2020 โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเลถิทูหั่งได้ยืนยันนี่เป็นความสนใจอันดับต้นๆของอาเซียนและจีนหลังจากถูกชงักงันเพราะปัญหาการระบาดของโควิด-19 และหวังว่าประเทศต่างๆที่เกี่ยวข้องจะร่วมฟื้นฟูการเจรจาเพื่อให้สามารถบรรลุซีโอซีที่มีประสิทธิภาพและบูรณาการ สอดคล้องกับกฎหมายสากลและUNCLOS 1982 

เกี่ยวกับข่าวนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น ซูงะ โยชิฮิเดะ มีแผนเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคมนี้ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเลถิทูหั่งได้เผยว่า ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่กว้างลึกเวียดนาม-ญี่ปุ่นกำลังพัฒนาอย่างดีงาม ทั้งสองฝ่ายได้ธำรงการเเลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระดับสูงในหลายรูปแบบ ด้วยเจตนารมณ์นั้นพวกเรายินดีที่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นจะเยือนเวียดนามในเวลาที่เหมาะสมกับทั้งสองฝ่าย.