รถบรรทุกวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มาถึงโรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อนส่วนกลางนครโฮจิมินห์เมื่อเวลา 7.00 น. ของวันที่ 8 มีนาคม (VGP)

การฉีดวัคซีนโควิด -19 ระยะแรกจะได้รับการปฏิบัติในสถานที่ดูแลรักษาผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 รวม 18 แห่งใน 13 จังหวัดที่กำลังเกิดการแพร่ระบาด โดยการฉีดวัคซีนระยะแรกจะมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคมถึงเดือนเมษายนโดยใช้วัคซีน Astra Zeneca กว่า 117,000 โดสที่ผลิตในสาธารณรัฐเกาหลี โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ปฏิบัติงานด้านการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปจะได้วัคซีนเป็นกลุ่มแรกและได้รับเข็มที่ 2 หลังจากนี้อีก 12 สัปดาห์ ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด -19 จะถูกเก็บข้อมูลในฐานข้อมูลสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์และได้รับใบรับรอง QR Code ว่าได้รับการฉีดวัคซีน

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข โด๋ซวนเตวียน ฉีดวัคซีนให้แก่นาง โด๋ถิหย่าย เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในแขวง เตินฮึง จังหวัดหายเยือง (VGP)

ในการประชุมของคณะกรรมการชี้นำแห่งชาติเกี่ยวกับการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 เมื่อวันที่ 5 มีนาคม รองนายกรัฐมนตรี หวูดึ๊กดาม ได้ย้ำว่า การเข้าถึงแหล่งวัคซีนจากต่างประเทศไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดว่า การเป็นฝ่ายรุกในการวิจัยและผลิตวัคซีนภายในประเทศเป็นยุทธศาสตร์ในระยะยาว ขณะนี้ มีวัคซีนป้องกันโรคโควิด -19 ในเวียดนาม 3 ชนิดที่กำลังได้รับการทดสอบในมนุษย์ โดยวัคซีน Nanocovax ของบริษัท Nanogen มีความคืบหน้าเร็วที่สุด ซึ่งกำลังได้รับการทดสอบระยะที่ 2 ในกรุงฮานอยและจังหวัดลองอาน “เมื่อมีวัคซีนแล้ว ต้องจัดการฉีดวัคซีน นอกจากนั้น กระทรวงสาธารณสุขต้องประเมินความปลอดภัยและประสิทธิภาพให้ดีที่สุด ในเร็วๆนี้ ถ้ามีวัคซีนก็จะฉีดวัคซีนนับสิบล้านโดส แม้วัคซีนจะมีเสถียรภาพแล้วแต่ก็ต้องไม่ประมาท ต้องระมัดระวังและเตรียมพร้อมอย่างรอบคอบ กระทรวงสาธารณสุขต้องประชาสัมพันธ์และอธิบายให้ประชาชนเข้าร่วมและเมื่อได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว ต้องค้ำประกันความปลอดภัยในระดับสูงสุด นอกจากนั้น ต้องผลักดันการผลิตวัคซีนภายในประเทศ”

ส่วนในวันที่ 9 มีนาคม สำนักงานสาธารณสุขฮานอยจะฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด -19 ให้กับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของโรงพยาบาลแทงหญ่านและเจ้าหน้าที่ของศูนย์ควบคุมโรคฮานอย และคาดว่า ในเดือนมีนาคม เวียดนามจะได้รับวัคซีนป้องกันโควิด -19 จากบริษัท Astra zeneca เพิ่มอีก 1 ล้าน 3 แสนโดสและอีก 4.1 ล้านโดสในเดือนเมษายน

พลเมืองเวียดนามกลับประเทศ

ในขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 7 มีนาคม มีเที่ยวบิน 2 เที่ยวจากสิงคโปร์พร้อมผู้โดยสารชาวเวียดนาม 360 คน รวมทั้งเด็ก ผู้ป่วยและผู้ที่ประสบความยากลำบากลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติเกิ่นเทอโดยทุกคนได้รับการตรวจสุขภาพและส่งไปยังเขตแยกตัวในจังหวัดเบ๊นแจ จังหวัดจ่าวิงห์และจังหวัดโห่วยาง

ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 6 มีนาคม ก็มีเที่ยวบิน 2 เที่ยวพร้อมผู้โดยสารชาวเวียดนามกว่า 300 คนจากมาเลเซียกลับประเทศโดยลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติเกิ่นเทอเช่นกัน และหลังจากถึงสนามบินฯ ทุกคนได้รับการส่งไปยังเขตแยกตัวที่จังหวัดเตี่ยนยางและจังหวัดหวิงลอง.