นาย ฝ่ามบิ่งมิงห์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวปราศรัยต่อผู้นำและตัวแทน 193 ประเทศสมาชิกของสหประชาชาติ

นาย ฝ่ามบิ่งมิงห์ยืนยันว่า การต่างประเทศพหุภาคีมีบทบาทสำคัญในนโยบายการต่างประเทศเช่นเดียวกับในกระบวนการเปลี่ยนแปลงใหม่ พัฒนาและผสมผสานเข้ากับกระแสโลกของเวียดนาม            “เวียดนามได้เข้าร่วมอย่างเข้มแข็งและเป็นฝ่ายรุก โดยมีส่วนร่วมเป็นอย่างมากต่อการสร้างสรรค์และมีความรับผิดชอบในกระบวนการพหุภาคีต่างๆ ควบคู่กับบรรดาประเทศอาเซียน เวียดนามกำลังพยายามส่งเสริมบทบาทเป็นศูนย์กลางของกลุ่มอาเซียนในการธำรงสันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคงและการขยายตัวที่พัฒนาและเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชีย – แปซิฟิก เวียดนามให้คำมั่นปฏิบัติระเบียบวาระการประชุม 2030 เกี่ยวกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนและข้อตกลงปารีสเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะก้าวเดินที่เป็นรูปธรรมเพื่อยุติการใช้พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวภายในปี 2025 เมื่อเร็วๆนี้ เวียดนามเป็นเกียรติที่ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและในฐานะนี้ เราจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อร่วมมือกับสมาชิกอื่นๆเพื่อสันติภาพและการพัฒนาอย่างยั่งยืน”

ในฐานะสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติวาระปี 2020-2021 และประธานอาเซียนในปี 2020 รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศฝ่ามบิ่งมิงห์ย้ำว่า เวียดนามจะให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการขยายความร่วมมือระหว่างสหประชาชาติกับองค์กรระดับภูมิภาค โดยเฉพาะในการยับยั้งการปะทะและผลักดันสันติภาพอย่างยั่งยืน

โอกาสนี้ นายฝ่ามบิ่งมิงห์ได้เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนหรือไอเอเอ็มเอ็มอย่างไม่เป็นทางการและการประชุมนัดต่างๆระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับสภาความร่วมมือเขตอ่าวหรือจีซีซี สหพันธ์แปซิฟิกหรือพีเอ เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติและประธานสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ โดยยืนยันว่า เวียดนามให้ความสำคัญถึงความร่วมมือกับสหประชาชาติและจะมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งต่อบทบาทการเป็นศูนย์กลางของสหประชาชาติในระบบพหุภาคีและปฎิบัติคำมั่นต่างๆของเวียดนามในสหประชาชาติ โดยเฉพาะในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงใหม่ของสภาพภูมิอากาศและการอนุรักษณ์สิ่งแวดล้อม.