ประธานสภาแห่งชาติเวียดนาม เวืองดิ่งเหวะกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม

ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุมภายใต้หัวข้อ “การฟื้นฟูหลังวิกฤต การปรับเปลี่ยนเศรษฐกิจเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและผลักดันการพัฒนาอย่างยั่งยืน” ประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะ ได้เรียกร้องให้บรรดาส.ส.สนับสนุน เดินพร้อมและส่งเสริมให้รัฐบาลมีปฏิบัติการที่เข้มแข็ง ผลักดันการตรวจสอบ ปรับปรุงกฎหมายให้มีความสมบูรณ์เพื่อสนับสนุนและตรวจสอบงานด้านการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดควบคู่กับการปฏิบัติคำมั่น  COP-21 ปรับเปลี่ยนเศรษฐกิจตามแนวทางการฟื้นฟูแห่งสีเขียว เศรษฐกิจหมุนเวียน การพัฒนาอย่างยั่งยืน ส่งเสริมความสัมพันธ์หุ้นส่วนระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน เชิดชูความพยายามและความคิดสร้างสรรค์ของสถานประกอบการ การสนับสนุนและการร่วมปฏิบัติของประชาชน

“ควบคู่กับการผลักดันความร่วมมือระหว่างประเทศ ความร่วมมือระหว่างรัฐสภาก็เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เพื่อร่วมกันรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19  สนับสนุนการจัดสรรวัคซีน ความร่วมมือในการผลิตวัคซีน การเพิ่มทักษะความสามารถของระบบสาธารณสุขค้ำประกันสวัสดิการสังคม ธำรงการผลิตและเสถียรภาพของห่วงโซ่คุณค่าในภูมิภาคและโลก ประเทศต่างๆที่พัฒนาต้องเดินหน้าในการปฏิบัติคำมั่นเกี่ยวกับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจก ให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิค  การเงิน เพิ่มทักษะความสามารถด้านเทคโนโลยีให้แก่ประเทศที่กำลังพัฒนา”

ในบ่ายวันเดียวกัน ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุมเกี่ยวกับเนื้อหา “การรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 และความท้าทายต่อกลไกความร่วมมือพหุภาคีในการตอบสนองความต้องการของประชาชน ประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะ ได้ย้ำถึงบทบาทขององค์การพหุภาคีในการเชื่อมโยงเพื่อปกป้องชีวิตและสิทธิผลประโยชน์ของประชาชน พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐสภาประเทศต่างๆผลักดันความร่วมมือพหุภาคีโดยสหประชาชาติมีบทบาทเป็นศูนย์กลางและการเข้าร่วมขององค์กรระหว่างประเทศและภูมิภาค ช่วยค้ำประกันแหล่งเงินเพื่อบรรลุเป้าหมายการฟื้นฟูในทุกด้านและยั่งยืนหลังวิกฤตโควิด -19  บรรดารัฐสภาต้องเป็นฝ่ายรุก มีความคิดริเริ่มและปฏิบัติการที่เข้มแข็งเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่รัฐบาลในการปฏิบัติโครงการแห่งชาติเกี่ยวกับการรับมือภัยคุกคามในโลกอย่างทันการณ์

สำหรับหัวข้อ “การลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19” ประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะ เห็นว่า บรรดารัฐสภาต้องส่งเสริมบทบาทการนำด้วยการถือประชาชนเป็นศูนย์กลางในนโยบายและการตัดสินใจต่างๆ ส่งเสริมความสามัคคี แหล่งพลังภายใน ความคิดสร้างสรรค์ของประชาชนและสถานประกอบการ.