ภาพในฟอรั่ม

ฟอรั่มได้เน้นหารือถึงปัญหาต่างๆในการพัฒนาการเกษตร การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจดิจิตอล ปัจจุบัน เศรษฐกิจภาคเอกชนมีส่วนร่วมที่สำคัญต่อการขยายตัวด้านเศรษฐกิจ โดยตั้งแต่ปี 2010 มาจนถึงปัจจุบัน เศรษฐกิจภาคเอกชนมีส่วนร่วมคิดเป็นร้อยละ 43 ในจีดีพีในขณะที่สถานประกอบการภาครัฐคิดเป็นร้อยละ 29  ในการนี้ นาย เหงวียนซวนฟุก นายกรัฐมนตรีได้ยืนยันอีกครั้งถึงการประเมินเกี่ยวกับเศรษฐกิจเวียดนามของนาย Jim Yong Kim ประธานธนาคารโลกว่า เวียดนามจะมีอนาคตที่สดใสเนื่องจากมีคณะผู้บริหาร ผู้ประกอบการเอกชนที่มีทักษะความสามารถและอยู่ในเขตเศรษฐกิจเอเชียตะวันออกที่คล่องตัว “รัฐบาลเน้นปัจจัยการปฏิบัติในอันดับสูงสุดเพื่อการพัฒนาประเทศ รวมถึงการพัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชนเป็นหน่วยงานแกนหลักของเศรษฐกิจ ในเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลได้จัดการประชุมส่งเสริมการลงทุน 25 ครั้ง อีกทั้งทำการสนทนาและพบปะกับสถานประกอบการคิดเป็นร้อยร้อยครั้งเพื่อหารือถึงปัญหาต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง การท่องเที่ยวและการเลี้ยงกุ้ง เป็นต้น ถ้าคิดเฉลี่ยแล้ว รัฐบาลและนายกรัฐมนตรีได้หารือกับสถานประกอบการเพื่อแสวงหาแนวทางการพัฒนาของสถานประกอบการทุกวัน”

ส่วนนาย Eric Sidgwick ผู้อำนวยการธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย หรือ เอดีบีประจำเวียดนามได้ชื่นชมการที่นายกรัฐมนตรีได้เข้าร่วมฟอรั่มดังกล่าว อันเป็นการยืนยันถึงการให้ความสำคัญและคำมั่นของรัฐบาลต่อการพัฒนาของภาคเอกชน ซึ่งเอดีบีให้คำมั่นที่จะร่วมมือกับเศรษฐกิจภาคเอกชนและรัฐบาลเวียดนามในการปรับปรุงบรรยากาศการลงทุน การสนับสนุนโครงการความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชนและเศรษฐกิจภาคเอกชน.