สหกรณ์การผลิตและประกอบธุรกิจสินค้าเกษตรปลอดสารพิษแบกดั่งปลูกแก้วมังกร รวมพื้นที่กว่า 60 เฮกตาร์

ปัจจุบัน สหกรณ์การผลิตและประกอบธุรกิจสินค้าเกษตรปลอดสารพิษแบกดั่งได้ปลูกแก้วมังกร รวมพื้นที่กว่า 60 เฮกตาร์ ได้ผลผลิต 45 ตันต่อเฮกตาร์ต่อปี นอกจากนี้ ยังปลูกพืชผลอื่นๆ  เช่น หัวหอมแดง กระเทียมและผัก

นาย เหงียนวันถวน สมาชิกสหกรณ์ธุรกิจบริการสินค้าเกษตรปลอดสารพิษแบกดั่งในตำบลแบกดั่ง ตัวเมืองกิงมน จังหวัดหายเยืองได้ใช้ระบบรดน้ำอัตโนมัติในการดูแลสวนองุ่นและแก้วมังกรหลายสิบเฮกตาร์ และยังใช้ระบบตาข่ายคลุมดินเพื่อป้องกันวัชพืชและรักษาความชุ่มชื้นให้แก่ดิน การประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้ช่วยให้ปริมาณผลผลิตและคุณภาพเพิ่มขึ้น ส่วนเกษตรกรก็มีรายได้มากขึ้น เมื่อปีที่แล้ว สหกรณ์สินค้าเกษตรปลอดสารพิษแบกดั่งได้ลงทุนก่อสร้างโรงเรือนกระจกรวมพื้นที่กว่า 9,000 ตร.ม. เพื่อปลูกองุ่นผสานกับการทำการท่องเที่ยวเชิงเกษตร นาย เหงียนวันถ่วน เผยว่า

“ในช่วงแรกที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงผมประสบความยากลำบากมากมาย แต่ตอนนี้สามารถลดการใช้แรงงานได้ประมาณร้อยละ 60-70 และรายได้เพิ่มขึ้น นี่คือแนวทางที่ดีมาก เมื่อก่อน ทำนาใช้แต่เครื่องจักรธรรมดา แต่ปัจจุบันใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการเตรียมดินและการไถพรวนซึ่งรวดเร็วและช่วยลดการใช้แรงงานคนในการเตรียมดินได้ถึงร้อยละ 90”

ครอบครัวของนาย ฝุ่งแยงเวียน สมาชิกของสหกรณ์เตินมิงดึ๊กในตำบลฝ่ามเชิ้น อำเภอยาหลกมีโรงเรือนกระจกขนาดประมาณ 1 เฮกตาร์โดยแต่ละปี ปลูกเมล่อน 4 ฤดูกาลตามมาตรฐาน VietGAP และ Global GAP ขณะนี้ เมล่อนของครอบครัวนาย เวียนและสมาชิกของสหกรณ์เตินมิงดึ๊กได้รับการจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่หลายแห่งทั่วประเทศ นาย เวียน เผยว่า การก่อสร้างโรงเรือนกระจกมีต้นทุนสูง แต่สามารถคืนทุนได้ภายในเวลา 3 ปี

“สำหรับโรงเรือนกระจกรวมพื้นที่ 1 เฮกตาร์จะได้กำไรประมาณ 45,000-65,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี และมีข้อดีคือไม่ต้องกังวลเรื่องสภาพอากาศและศัตรูพืชรวมถึงตลาดจำหหน่าย  สำหรับการปลูกเมล่อน ถ้าดูแลเป็นอย่างดีก็จะได้ผลใหญ่เนื้อแน่น น้ำหนักประมาณ 1.4 - 1.7 กก./ผล พื้นที่ 1 เฮกตาร์ สามารถปลูกเมล่อนได้ 7,500 ต้น”

การทำฟาร์มแบบดั้งเดิมขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและตลาดเป็นอย่างมาก นับตั้งแต่ก่อสร้างโรงเรือนกระจกหลังนี้ ช่วยค้ำประกันราคาคงที่

การพัฒนาการผลิตสินค้าเกษตรโดยเน้นประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและเกษตรอินทรีย์คือแนวทางที่จังหวัดหายเยืองเน้นให้ความสนใจและส่งเสริม โดยที่อำเภอต่างๆของจังหวัดหายเยืองได้มีการพัฒนาที่ดินเพื่อผลิตสินค้าเกษตรโดยประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ เทคโนโลยีการฉีดพ่นยากำจัดศัตรูพืชโดยใช้โดรนที่ถูกนำมาใช้ในพื้นที่การผลิตหลายแห่ง ธำรงการดำเนินงานของสถานีอุตุนิยมวิทยาอัจฉริยะ Imetos ที่อำเภอแทงห่าและอำเภอแทงเมี๊ยนเพื่อพยากรณ์อากาศในภูมิภาค และระบบเตือนศัตรูพืชและโรคพืช ปัจจุบัน ทางจังหวัดฯมีนโยบายช่วยเหลือครัวเรือนในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิตมากมาย เช่น โครงการ “พัฒนาการผลิตสินค้าเกษตรโดยเน้นประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและเกษตรอินทรีย์ในช่วงปี 2022-2025 การกำหนดแนวทางจนถึง 2030” สนับสนุนพื้นที่ปลูกข้าวด้วยเครื่องจักร พื้นที่สนับสนุนการเชื่อมโยงการผลิตและการบริโภคสินค้าเกษตร นาง เลืองถิเกี๊ยม รองผู้อำนวยการสำนักงานการเกษตรและพัฒนาชนบทจังหวัดหายเยือง เผยว่า “นอกเหนือจากการสนับสนุนการผลิตแล้ว จังหวัดหายเยืองยังสนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมการประชาสัมพันธ์ โดยเฉพาะการสร้างแบรนด์ให้แก่สถานประกอบการและสหกรณ์ผลิตสินค้าการเกษตรและอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง สิ่งที่สำคัญคือปัญหาด้านตลาด ถ้าหากเราสร้างแบรนด์ที่ดี ราคาขายที่เหมาะสม บวกกับการขยายการผลิต เกษตรกรก็จะได้รับประโยชน์และประสิทธิภาพการผลิตก็เพิ่มขึ้นด้วย  ทางจังหวัดฯกำลังเน้นสนับสนุนในทุกด้าน รวมทั้งการสนับสนุนการสร้างแบรนด์ การประชาสัมพันธ์และการส่งเสริมการขาย ตลอดจนการสนับสนุนการผลิต”

นอกจากการพัฒนาและยกระดับคุณภาพของพื้นที่การเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงแล้ว จังหวัดหายเยืองยังส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล โดยกำหนดว่า การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลเป็นแรงผลักดันเพื่อพัฒนาการผลิตการเกษตรอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ทางจังหวัดฯยังวางแผนที่จะปฏิบัติรูปแบบการเกษตรอัจฉริยะและการเกษตรที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงเป็นการนำร่อง.